นักลงทุนจีนเตรียมสร้างโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในกานา
นักลงทุนจีนกำลังเตรียมก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในกานา โดยเลือกทำเลพื้นที่แถบเขื่อนบุย (Bui dam) ในเขตบันดา จังหวัดโบโน
ซามูเอล โคฟี จามีซี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารขององค์การพลังงานบุยซึ่งกำกับดูแลสถานีผลิตพลังงานน้ำเขื่อนบุย (BSG) กล่าวว่า ทางองค์การได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการสร้างโรงงานร่วมกับนักลงทุนจีนเรียบร้อยแล้ว
นายจามีซีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การก่อสร้างโรงงานจะเริ่มต้นจริงในเดือนมิถุนายนปีนี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 โดยโรงงานจะมีกำลังผลิตน้ำตาลประมาณ 60,000 ตันเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศและการส่งออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวยังเป็นเจ้าของบริษัท บุยชูการ์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฟาโวแมนในเขตเดียวกัน บริษัทแห่งนี้ได้รับอนุญาตจากองค์การพลังงานบุยให้ใช้พื้นที่ 13,000 เอเคอร์หรือประมาณ 32,500 ไร่เพื่อปลูกอ้อยเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานที่กำลังจะสร้างขึ้น โดยขณะนี้บริษัทได้ปลูกอ้อยไปแล้วกว่า 250 เฮกเตอร์หรือประมาณ 1,500 ไร่
“ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ องค์การพลังงานบุยถือเป็นผู้ถือหุ้นของโรงงานแห่งนี้” นายจาซีมีอธิบายขณะพามาดามจัสตินา โอโวซู-บานาเฮน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโน เยี่ยมชมพื้นที่ก่อสร้างโรงงานในเมืองฟาโวแมนตามกำหนดการเยี่ยมชมพื้นที่บริเวณเขื่อนบุยเป็นเวลาสองวัน
มาดามจัสตินา โอโวซู-บานาเฮน์ มาเยือนในครั้งนี้เพื่อตรวจตราการทำงานของเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาด 400 เมกะวัตต์พร้อมสมาชิกสภาความมั่นคงประจำจังหวัดโบโนรวมถึงผู้บริหารสำนักงานเขตและคณะเทศบาลในจังหวัด
นายจาเมซีอธิบายว่าโครงการก่อสร้างโรงงานจะช่วยให้ชาวบ้านกว่า 500 คนในพื้นที่มีงานทำ ทั้งยังจะส่งเสริมให้ตลาดแรงงานในท้องที่มีตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 5,000 ตำแหน่ง
นายจาเมซีเน้นย้ำว่า โครงการนี้เป็นสินทรัพย์ที่สำคัญของชาติซึ่งจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ดังนั้น เขาจึงรู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีนานา แอดโด ดังควา อะคุโฟ-แอดโด สภาเขตบันดา และชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งคอยสนับสนุนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เขารู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนในพื้นที่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือจนปูทางไปสู่การสร้างโรงงานได้ในที่สุด
นายเวท ฮวา กรรมการผู้จัดการบริษัท บุยชูการ์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเตรียมพื้นที่เพื่อปลูกอ้อยไว้ป้อนโรงงาน โดยก่อนหน้านี้ได้มีการสร้างเขื่อนและระบบชลประทานเพื่อปรับปรุงการจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและรองรับการขยายพื้นที่ปลูกอ้อย
นายฮวากล่าวว่าเขาประทับใจในความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท องค์การพลังงานบุย และชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งยังหวังว่าความสัมพันธ์นี้จะแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย