มุ่งสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน
รัฐบาลของเราหวังที่จะลดมลพิษเหมือนอย่างทั่วโลก และเป้าหมายง่าย ๆ ที่มุ่งเน้นก็คือเครื่องยนต์ดีเซล เรารู้สึกมั่นใจว่านักการเมืองคิดถูกแล้วที่พยายามโน้มน้าวให้ประชาชนเชื่อว่าไฟฟ้าจะเป็นแหล่งพลังงานเดียวของเราในอนาคต และเราจะต้องเลิกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กันอยู่ หรืออย่างน้อยเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในต้องเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

รัฐบาลประเทศยุโรปถึงขนาดกำหนดวันที่เป้าหมายที่ไม่อาจบรรลุได้เพื่อไปให้ถึงอนาคตที่ “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์” ไม่มีสิ่งใดควรค่าที่ทำสำเร็จด้วย “ความรีบเร่ง” การบอกคนทั้งโลกว่าไฟฟ้าคือตัวเลือกเดียวเป็นการขาดความรับผิดชอบ ในขณะที่มันอาจจะเป็นอย่างนั้นหรืออาจจะไม่ใช่ แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มันไม่จริงเลย และกล่าวตามตรง เราสงสัยว่ามันจะมีวันเป็นแบบนั้นไหม ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมในบ้าน หรือในที่ซึ่งการติดตั้งถาวรจำเป็นต้องใช้พลังงาน มันแพงสำหรับการผลิต ยากที่จะเก็บรักษา สิ้นเปลืองการดำเนินงาน และเสี่ยงเกิดปัญหานับไม่ถ้วนเมื่อนำมาใช้กับเครื่องจักรเคลื่อนที่หรือแยกเดี่ยว
ถ้าเราอยากจะจัดการปัญหามลพิษทางอากาศจริง ๆ มันจะเป็นที่ยอมรับได้มากขึ้นถ้าวิธีแก้ไขที่พัฒนาขึ้นอย่างเหมาะสมนั้นค่อย ๆ ถูกนำเข้ามาใช้ ถ้าไม่ใช่โดยกฎหมายก็โดยวิธีที่เป็นจริงมากขึ้นด้วยการทำให้เส้นทางการปล่อยมลพิษต่ำเป็นทางเลือกที่น่าพอใจกว่า ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือการใช้ก๊าซ CNG ในรถแท็กซี่จำนวนมากในกรุงเทพฯ ก๊าซนั้นทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดีกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเก่าถึง 25%
พวกเรา Samart ยอมรับข้อเท็จจริงที่ว่า ฐานลูกค้าของเรายังไม่พร้อมสำหรับรถที่ขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้าไปอีกอย่างน้อยสองทศวรรษข้างหน้า และจะยังคงต้องอาศัยเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ ดังนั้นเราจึงเริ่มต้นการขับเคลื่อนไปสู่การปล่อยมลพิษให้น้อยลงด้วยการแนะนำคุณสมบัติที่ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษ แต่ให้แพ็กเกจที่ดึงดูดใจมากขึ้นแก่ลูกค้า
ฟังเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหม? แต่ไม่เลย ปัจจุบันนี้ ในประเทศเอเชียส่วนใหญ่ไม่มีกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์ ดังนั้น เครื่องยนต์ทุกประเภท แม้แต่เครื่องยนต์มือสองที่ล้าสมัยก็สามารถสร้างให้เป็นเครื่องจักรใหม่ได้ และทำงานโดยไม่คำนึงถึงเรื่องการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์หรือความสามารถที่จะเกิดมลพิษ
.jpg)
ที่ Samart เราเห็นด้วยว่าก่อนหน้าโควิดเราจะมุ่งไปสู่มาตรฐานที่ดีขึ้น มาตรฐานที่เหมาะสมกับการเสนอผลิตภัณฑ์ของเรา แต่ยังคงให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเครื่องยนต์ที่สะอาด ในเวลาเดียวกัน วิศวกรของเราเริ่มทำงานด้านการปรับปรุงเครื่องยนต์ภายในของเครื่องจักรเพื่อลดความต้องการพลังงานโดยรวม ความต้องการพลังงานน้อยลง ความต้องการน้ำมันน้อยลง การเผาไหม้เชื้อเพลิงน้อยลง และมลพิษน้อยลง
ผลของโครงการเหล่านี้ปัจจุบันเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ด้วยการเปิดตัวเครื่องเก็บเกี่ยวตัวใหม่ที่ชื่อ “Predator” เมื่อปีที่แล้ว เราได้เห็นความต้องการน้ำมันต่อตันลดลงอย่างมาก และศูนย์กลางของปรากฏการณ์นั้นก็คือเครื่องยนต์แบบ emissionised ของ Volvo Penta ที่ปัจจุบันให้พลังงานไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนแก่เครื่องจักร เครื่องยนต์นี้ ร่วมกับระบบการจัดการเครื่องยนต์ Samart TEC อยู่ที่หัวใจของการทำงานที่น่าทึ่งและการปล่อยไอเสียต่ำของ Samart Predator
แม้ว่าตอนนี้นี่อาจจะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก “เป็นศูนย์” อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกแนะนำ แต่นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับลูกค้าที่กำลังใช้ Samart เมื่อเทียบกับเครื่องเก็บเกี่ยวรุ่นเก่าในท้องตลาด และเป็นการมุ่งไปสู่การปล่อยมลพิษที่ลดลง สำหรับเรา นี่คือการมีความรับผิดชอบมากกว่าการพยายามโน้มน้าวให้เกษตรกรยอมรับเทคโนโลยี EV และเป็นการก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง มากกว่าจะเป็นการก้าวกระโดดที่ไม่มั่นคงไปสู่อนาคตที่การปล่อยก๊าซเรือนกระจก “เป็นศูนย์”
อย่างไรก็ตาม เราไม่หยุดพัฒนาและยอมรับว่าปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากบริษัทอื่นในตลาดมากมาย แต่เนื่องจากเราตระหนักถึงความท้าทายต่อเกษตรกร (ที่จำเป็นจะต้องเติมน้ำมันในพื้นที่ห่างไกล) ความพึงพอใจของเราจึงเป็นการมุ่งไปสู่น้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกอยู่เสมอ
เป็นเรื่องน่าสนใจที่ออตโต้ ดีเซล ชายผู้คิดค้นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันถั่วลิสง ดังนั้น ด้วยเครื่องยนต์ไบโอดีเซลและเครื่องยนต์ไฮโดรเจนที่เป็นจริงขึ้นแล้วนั้น เราจึงคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะมีน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือก อย่างไรก็ตาม สำหรับตอนนี้ เราคิดว่ามาถูกทางแล้วกับเรื่องการปล่อยมลพิษ และได้ดำเนินการตามแผนที่จะติดตั้งดีเซลที่มี DPF (อุปกรณ์กรองเขม่าเครื่องยนต์ดีเซล) และ SCR (อุปกรณ์ลดการปล่อยไอเสีย) เพื่อทำให้ระดับการปล่อยไอเสียของการใช้น้ำมันดีเซลธรรมดาอยู่ที่ระดับ 5 ก่อนที่เราจะเปลี่ยนไปหาน้ำมันเชื้อเพลิงอื่น ๆ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของอนาคต เพราะตอนนี้เหล่าเกษตรกรมีปัญหาให้จัดการมากพออยู่แล้ว

โครงการปรับปรุงแก้ไขของเราขณะนี้กำลังมุ่งไปที่รถรุ่นอื่น ๆ และเราจะเปิดตัวรถใหม่รุ่น SM200 Superspeed ที่ให้พลังงานโดย Volvo Penta ในงาน Sugarex ที่ขอนแก่นปลายปีนี้ รถรุ่น SM200 Superspeed ที่ได้รับความนิยมจากผู้รับจ้างตัด มีสมรรถนะบนท้องถนน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การย้ายระหว่างพื้นที่ทำงานทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
รถ Superspeed สามารถเปลี่ยนฟังก์ชันการทำงานเป็นรูปแบบอื่นได้โดยไม่ต้องปรับหรือเปลี่ยนการตั้งค่า และไม่ต้องใช้รถบรรทุกขนส่ง เป็นการช่วยให้ผู้รับจ้างลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ตัดต้นทุนการขนส่ง ลดแรงงานคน และเพิ่มผลผลิต นอกจากนี้ยังผลักดันไปสู่สภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นในสังคมชนบท
ที่ Samart เราจะไม่ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ เราแค่ทำงานกับชุมชนเพื่อขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเราไม่จำเป็นต้องบอกลูกค้าว่าควรทำอะไร แต่เราจะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง และหวังว่าพวกเขาจะแบ่งปันเทคโนโลยีของเราเพื่อมุ่งไปสู่สภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น