BBGI เปิด โรงงาน บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล หนุนกำลังผลิตรวมทั้งกลุ่มพุ่งแตะ 8 แสนลิตรต่อวัน
บมจ. บีบีจีไอ หรือ BBGI ขานรับนโยบายภาครัฐ โดยกระทรวงคมนาคมที่เปิดแผนปรับโครงสร้างน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ สู่การส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงาน พร้อมเดินหน้าเปิดโรงงาน บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล สาขาน้ำพอง 2 จ.ขอนแก่น ในเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ด้วยกำลังการผลิต 200,000 ลิตรต่อวัน หนุนกำลังการผลิตรวมของกลุ่มบีบีจีไอพุ่งแตะระดับ 800,000 ลิตรต่อวัน
นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ผู้ดำเนินธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีกำลังการผลิตรวมทั้งไบโอดีเซลและไบโอเอทานอลเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่บีบีจีไอ ได้ลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตเชื้อเพลิงเอทานอลไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันโรงงานบีบีจีไอ ไบโอเอทานอล สาขาน้ำพอง 2 จ.ขอนแก่น โดยเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ขณะนี้เริ่มเปิดดำเนินการผลิตแล้วเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งหลังจากเปิดดำเนินการผลิตแล้ว จะทำให้ผลการดำเนินงานของบีบีจีไอ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับในส่วนของการผลิตไบโอเอทานอลของกลุ่มบีบีจีไอ ในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 600,000 ลิตรต่อวัน จากโรงงานผลิตทั้ง 3 โรงงาน โดยภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 นี้ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 800,000 ลิตรต่อวัน จากการเริ่มปฏิบัติการของโรงงานบีบีจีไอไบโอเอทานอล สาขาน้ำพอง 2 โรงงานที่ 2 ซึ่งสามารถผลิตเอทานอลได้ 200,000 ลิตรต่อวัน โดยคาดว่าเมื่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างเต็มที่จะส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
นายกิตติพงศ์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า จากแผนการปรับโครงสร้างน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยของกระทรวงพลังงาน เพื่อส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงาน เช่น อ้อย และมันสำปะหลัง โดยการกำหนดให้โรงกลั่นน้ำมันยกเลิกการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และผลักดันให้แก๊สโซฮอล์ E20 (น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอลร้อยละ 20.0) เป็นน้ำมันพื้นฐานกลุ่มเบนซิน ทำให้แนวโน้มปริมาณการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) พบว่ากระทรวงพลังงานมีเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณการใช้เอทานอลจากประมาณ 4.0 ล้านลิตรต่อวันในปี 2563 เป็น 7.5 ล้านลิตรต่อวัน ในปี 2580 การขยายกำลังการผลิตเอทานอลในครั้งนี้ จะสามารถช่วยรองรับปริมาณการใช้เอทานอลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐได้