เอทานอล

บราซิลสำรวจลู่ทางใหม่ในการใช้ประโยชน์จากชานอ้อย

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คาดว่าราคาไฟฟ้าในตลาดพลังงานของบราซิลจะยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดตามกฎหมาย ส่งผลให้ภาคส่วนอย่างโรงงานน้ำตาลและเอทานอลจำเป็นต้องมองหาตลาดใหม่ เพื่อขายชานอ้อยส่วนเกินออกไป 

ชานอ้อยมุ่งเป็นพลังงานชีวภาพที่ได้จากกระบวนการหีบอ้อยที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมน้ำตาลและเอทานอลของบราซิล เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าในพื้นที่และผลิตกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน แล้วขายส่งผ่านบนระบบกริดแห่งชาติ 

แต่ด้วยราคาค่าไฟฟ้ากลางยังไม่ขยับไปจากเกณฑ์บังคับ ซึ่งปัจจุบันตั้งไว้ที่ R69.04/MWh ($14.03/MWh) นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 และผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดการณ์ว่าจะยังคงอยู่ที่จุดต่ำสุดอีกอย่างน้อย 12 เดือน ราคาที่ต่ำกว่าปกตินี้เกิดจาก   

ปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าปกติในช่วงฤดูฝนปีนี้ของบราซิล แล้วลากยาวไปถึงฤดูแล้ง เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญาที่รุนแรง 

ส่งผลให้มีระดับการกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งวัดได้ที่ 82.45pc เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ตามข้อมูลจาก หอการค้า พลังงานไฟฟ้า (CCEE) ซึ่งใช้ในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ และราคาไฟฟ้ากลางได้รับการควบคุมและคํานวณอย่างเข้มงวดผ่านแบบจําลองการคํานวณที่คํานึงถึงระดับการกักเก็บน้ำและข้อมูลปริมาณน้ำฝน 

แนวโน้มดังกล่าวได้กระตุ้นให้ภาคส่วนของอ้อยสํารวจช่องทางการขายที่แตกต่างกันสําหรับชานอ้อยส่วนเกินจากโรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับส่วนที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับสัญญาพลังงานในระยะยาว 

“ชานอ้อยส่วนเกินถูกขายเพื่อผลิตพลังงานสําหรับการผลิตน้ำส้มในรัฐเซาเปาโล ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมอ้อยโดยส่วนใหญ่” ผู้อํานวยการฝ่ายพลังงานของบริษัทเอทานอลกล่าว “แต่การลงทุนใหม่ในเอทานอลรุ่นที่ 2 ยังทําให้ความต้องการ ชานอ้อยเพิ่มขึ้นอีกด้วย” 

เขาบอกใบ้ถึงกลุ่มโรงหีบอ้อยของบริษัท Raizen หรือโรงงานนำร่องเอทานอลรุ่นที่ 2 (2G) ที่โรงงานคอสตา ปินตุ เขตปิราซิคาบา กรุงเซาเปาโลว่า ในฤดูเก็บเกี่ยวปี 2565 – 2566 สามารถผลิตได้ 30.3 ล้านลิตร (525 b/d) ตามข้อกำหนด 2G ที่ได้จากกากอ้อย รวมถึงยอดและใบที่ถูกทิ้งจากการเก็บเกี่ยวอ้อย 

แหล่งที่มา: Bioenergy International 

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า Raizen เข้าซื้อชานอ้อยส่วนเกินจากโรงงานใกล้เคียง เพื่อช่วยเพิ่มอุปทานให้บรรลุเป้าหมายการผลิตเอทานอลรุ่นที่ 2 “มันยากที่จะบอกว่า นี่จะเป็นตลาดที่เหมาะสมในอนาคตหรือไม่ แต่การสร้างความมั่นใจในการจัดหาวัตถุดิบเป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสําหรับเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งหมด” ผู้อํานวยการพลังงานกล่าว 

โรงงานผลิต E2G (Ethanol-2G) แห่งที่ 2 ของ Raizen ควรจะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายนที่เขตอุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพบงฟิง ในเมืองการิบา ในเซาเปาโลด้วย ซึ่งน่าจะต้องใช้ชานอ้อยจำนวนมากเพื่อให้บรรลุกำลังการผลิตรวม 82 ล้านลิตร/ปี โดยเป็นกลุ่มบริษัทร่วมทุนระหว่างเชลล์และบริษัท โคซัน จำกัด ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือของบราซิลมีแผนก้าวหน้าที่จะมีโรงงานผลิต E2G จำนวน 20 โรงภายในเดือนมีนาคม 2574 ให้มีกำลังการผลิตติดตั้งที่ 1.6 พันล้านลิตรต่อปีภายในปี 2574 

ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมในรัฐมาตูโกรซูดูซูวและรัฐโกยาสยังได้หารือเกี่ยวกับการเตรียมการที่คล้ายกันนี้กับผู้ผลิตเอทานอลจากข้าวโพดในรัฐทางตะวันตกตอนกลางด้วยเช่นกัน 

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า บริษัทอินปาซาที่ผลิตเอทานอลจากข้าวโพดในรัฐมาตูโกรซูดูซูว และบริษัทเซา มาร์ตินโญที่บัววิชตา ในรัฐโกยาส ทั้งสองบริษัทได้จัดหาชานอ้อยจากโรงตัดอ้อยใกล้เคียงเพื่อใช้เป็นพลังงานในการดำเนินงาน 

การซื้อชานอ้อยจะติดต่อซื้อขายกันเองระหว่างคู่ค้า (ผู้ซื้อกับผู้ขาย) ซึ่งทางผู้ขายจะต้องจับตาดูสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในภูมิภาค ค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์และการค้าขายกับตลาดพลังงาน โดยทั่วไปราคาสินค้าจะพิจารณาจากมูลค่าผลิตภัณฑ์และอัตราค่าขนส่ง แต่การแบ่งปันแต่ละครั้งอาจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างภูมิภาคโดยพิจารณาจากมูลค่าชีวมวลในท้องถิ่น 

จากชานอ้อยเหลือทิ้งสู่การเป็นวัตถุดิบหลัก 

ในบราซิล อุตสาหกรรมน้ำตาลและเอทานอลได้ขยายบทบาทด้านไฟฟ้าในประเทศตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ซึ่งหมายความว่ากากอ้อย เช่น ชานอ้อยส่วนเกินที่เคยถูกทิ้งไปก่อนหน้านี้จะกลายเป็นทรัพยากรที่มีมูลค่าอย่างหนึ่ง 

นอกจากพลังงานแล้ว ชานอ้อยยังสามารถทำเป็นปุ๋ยธรรมชาติ หรือสินค้าที่ส่งออกได้ในรูปแบบของเม็ด หรือส่วนประกอบที่เหมาะ สมสําหรับอาหารสัตว์ 

การได้มาของตัวเลขที่แม่นยำสำหรับการผลิตชานอ้อยอาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีส่วนประกอบและตัวแปรมากมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการตัดสินใจที่ซับซ้อนซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะตกตะกอน การเลือกใช้ส่วนผสมระหว่างน้ำตาลกับเอทานอล หรือแม้แต่อายุของโครงสร้างพื้นฐานของโรงงาน ซึ่งส่งผลต่อปริมาณไอน้ำที่จำเป็นสำหรับกระบวนการและปริมาณชานอ้อยที่หลงเหลืออยู่ 

การวิจัยที่ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการแห่งชาติด้านพลังงานหมุนเวียน (LNBR) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์วิจัยพลังงานและวัตถุแห่งบราซิล (CNPEM) ประมาณการว่า บราซิลมีศักยภาพการผลิตที่ 162 ล้านเมตริกตัน/การเก็บเกี่ยวชานอ้อย โดยมีพื้นที่ภาคกลาง – ใต้คิดเป็น 92% ของการผลิตภายในประเทศ 

vulkan vegas, vulkan casino, vulkan vegas casino, vulkan vegas login, vulkan vegas deutschland, vulkan vegas bonus code, vulkan vegas promo code, vulkan vegas österreich, vulkan vegas erfahrung, vulkan vegas bonus code 50 freispiele, 1win, 1 win, 1win az, 1win giriş, 1win aviator, 1 win az, 1win azerbaycan, 1win yukle, pin up, pinup, pin up casino, pin-up, pinup az, pin-up casino giriş, pin-up casino, pin-up kazino, pin up azerbaycan, pin up az, mostbet, mostbet uz, mostbet skachat, mostbet apk, mostbet uz kirish, mostbet online, mostbet casino, mostbet o'ynash, mostbet uz online, most bet, mostbet, mostbet az, mostbet giriş, mostbet yukle, mostbet indir, mostbet aviator, mostbet casino, mostbet azerbaycan, mostbet yükle, mostbet qeydiyyat