ส่งเสริมการปลูกพันธุ์เมล็ด สร้างความเปลี่ยนแปลงแก่ไร่อ้อย
ปัจจุบันนี้ การทำเกษตรกรรมแบบใช้เครื่องจักรกลมีประโยชน์อย่างมากในการเพาะปลูกในเอเชีย เพราะเป็นการพลิกฟื้นที่ดินที่ไม่มีการทำการเกษตรใดๆให้เกิดประโยชน์สู่เจ้าของ ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมน้ำตาลในปัจจุบัน ให้เกิดการพัฒนาและสร้างผลผลิตมหาศาลต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การทำกิจกรรมทางการเกษตรต่างๆได้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมโลก จึงมีความจำเป็นต้องบริหารจัดการอย่างถูกวิธี เพราะการได้ผลผลิตที่ลดลงจากพื้นดินที่เคยอุดมสมบูรณ์ เริ่มกลายเป็นประเด็นสำคัญและน่าสังเกตมากยิ่งขึ้น เมื่อการขาดแหล่งน้ำรวมทั้งพืชผลมีจำนวนน้อยลงเป็นตันๆเสมือนว่าเรากำลังอยู่ใน “ฤดูกาลหีบอ้อย” ครั้งสุดท้ายหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าสาเหตุหลักนั้นมาจากการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรแบบไม่เหมาะสมในการจัดการการเพาะปลูก
การใช้รถที่บรรทุกน้ำหนักมากเกินไปบนผืนดินเป็นสาเหตุให้ดินมีลักษณะการอัดตัวเป็นชั้นแข็ง ทำให้อากาศและน้ำไม่สามารถซึมผ่านได้ ซึ่งต้นอ้อย เป็นพืชยืนต้นตระกูลเดียวกับหญ้า จะช่วยต่อการตัดได้ดีเมื่อมีสารอาหารและความชื้นที่พอเพียงสำหรับรากของพืชที่มีลักษณะสั้น ทำให้ต้นอ้อยจะยังคงเจริญงอกงามดีแม้จะถูกตัดออกไปแล้ว จึงเรียกส่วนที่เหลือนี้ว่า “อ้อยตอ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวไร่อ้อยทั่วโลกได้เพาะปลูกอ้อยหมุนเวียน แต่ “อ้อยตอ” ที่ใช้การได้นั้นกำลังกลายเป็นอดีตเนื่องจากดินที่อัดตัวกันแน่นทำให้มีผลผลิตลดลงในแต่ละปี เพราะดินแบบนี้จะไม่มีความสามารถในการอุ้มต้นพืชให้เจริญเติบโตได้หลังจากถูกรถแทรกเตอร์ เครื่องตัดอ้อย และรถบรรทุกทับหน้าดินเป็นเวลานาน
การฟื้นฟูดินให้กลับมามีคุณภาพอาจทำได้โดยการไถพรวนดินให้ลึกขึ้น และใช้ปุ๋ยเร่งสารอาหารจำนวนมากรวมทั้งสารเติมแต่งที่มนุษย์ทำขึ้นเอง นั่นหมายความว่าพื้นที่ไร่เหล่านี้จะยังไม่สามารถให้ผลผลิตได้และเสียผลประโยชน์ในการค้าขายไปชั่วระยะหนึ่ง แต่ก็ชัดเจนว่าการนำกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นมาใช้ โดยกำหนดวิธีการเพาะปลูกที่แตกต่างอย่างหลากหลาย ทำให้พืชมีความแข็งแรงและสร้างความอุดมสมบูรณ์แก่ดินด้วยการไถผิวหน้าดินที่อัดตัวแน่นให้กระจายออกเป็นระยะๆอย่างสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งวิธีการที่ได้รับคำแนะนำมาแล้วก็คือการหยอดเมล็ดลงในหลุมดินที่ใช้เครื่องปลูก ซึ่งจะซึ่งจะช่วยให้ต้นอ้อยสามารถแตกหน่อภายได้ชั้นดิน และอาจจะทำให้มีการพัฒนาของรากต้นอ้อยอย่าง รวมทั้งช่วยแยกผิวหน้าดินที่แข็งออกเมื่อพืชเจริญเติบโตในเวลาเดียวกัน ทำให้ลดผลกระทบจาก ชั้นดินที่อัดตัวแน่น วิธีการเจาะผ่านชั้นดินเพียงอย่างเดียวจะช่วยเพิ่มการรับสัมผัสของเมล็ดต่อความชื้นในดินชั้นล่างทันที การก่อตัวของรากที่อยู่ลึกลงไปในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมของหลุมปลูกที่เตรียมไว้หมายความว่า การรับสารกระตุ้นรากจะ “เพิ่มขึ้น” สูงสุดเนื่องจากความลึกของพืชนั้นเพียงพอ จึงได้รับผลกระทบน้อยลงจากวัชพืชและศัตรูพืชอื่นๆ อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรเชื่อว่าการปลูกด้วยหลุมเป็นกลไกนำไปสู่การปรับปรุงที่สำคัญในด้านการผลิตและสภาพดินที่ดีขึ้นโดยทั่วไปในหลายกรณี อย่างไรก็ตาม กระบวนการขุดหลุมพืชที่เตรียมไว้อย่างมีประสิทธิภาพ (ที่ระดับความลึกที่เหมาะสม) การปลูกเมล็ดอ้อยที่แท้จริง การเพิ่มปริมาณการเจริญเติบโต หรือการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องจะมีความซับซ้อนและต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการดำเนินการ
การดำเนินการข้างต้นยังมีความซับซ้อนในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่กำลังหาวิธีฝ่าฟัน แต่คุณสามารถ ลี้ธีระนานนท์ วิศวกรผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศไทยมีแนวคิดอื่นที่ต่างออกไป เขากล่าวว่า “มันเป็นเรื่องของระบบอัตโนมัติที่เหมาะสม เพราะเรารู้ว่าประโยชน์คืออะไร เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร และจะต้องทำอย่างไรเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นี่เป็นแค่ปัญหาทางวิศวกรรมอีกอย่างหนึ่ง และ “พวกเราต้องแก้ไขปัญหาให้ได้”
คุณสามารถกล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องจักรกลการเกษตรที่สามารถดำเนินกระบวนการดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องดำเนินการตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้:
• ต้องสามารถเจาะผ่านดินเหนียวได้อย่างแน่นอนและตามความลึกที่ต้องการ
• ต้องมีถังบรรจุที่สามารถรับน้ำหนักอ้อยได้จำนวนมาก
• ต้องป้อนเมล็ดพืชที่มีความยาวแตกต่างกันลงแต่ละหลุมที่เตรียมไว้ได้
• ต้องมีความสามารถในการให้สารบำรุงแก่ต้นอ้อยที่มีการเจริญเติบโตที่เหมาะสมหรือมีการเตรียมยาฆ่าแมลงก่อนปลูกได้
• ต้องเตรียมถมดินเพื่อคลุมอ้อยเมื่อปลูกได้แล้ว
• ต้องมีความประหยัดอย่างมาก
• ต้องมีกระบวนการปลูกที่ดีและดูแลบำรุงง่าย
ซึ่งนี่คือเกณฑ์ที่คุณสามารถกำหนดไว้สำหรับตลาดอ้อย โดยจัดให้มีผลิตภัณฑ์ซึ่งจะเพิ่มผลกำไรและอายุการใช้งานที่ยาวนานของการผลิตอ้อย แม้ว่าวิธีการนี้จะช่วยแก้ไขเรื่องปัญหาชั้นดินที่อัดตัวแน่นได้ แต่ยังคงต้องนำแนวคิดด้านการพัฒนาพืชผ่านกระบวนการปลูกที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้อยู่
คุณสามารถอธิบายกล่าวว่า “ในทางทฤษฎี การปลูกพืชด้วยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำอาจเป็นคำตอบดินที่อัดตัวเป็นชั้นแข็งและไม่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่คำตอบที่แท้จริงอยู่ที่การลดความเสียหายของดินในระยะยาวตั้งแต่แรก เครื่องเตรียมดินและเก็บเกี่ยวด้วยแรงดันดินต่ำจะทำงานคล้ายกับเครื่องจักรรุ่นเก่าที่สร้างความเสียหายให้ดิน ภาคอุตสาหกรรมต้องใช้กระบวนการนี้อย่างมีกลยุทธ์เพื่อให้ระบบการปลูกพืชด้วยเครื่องจักรกลายเป็นปัญหาระยะสั้น และเพื่อให้แน่ใจว่าระบบนี้จะก่อให้เกิดแรงอัดดินที่น้อยลงในอนาคต คุณสามารถสรุปว่า “การใช้แรงที่มีน้ำหนักน้อยบนดิน ได้ผลดีกว่ากระบวนการซ่อมแซมดินที่ผมได้ปรับใช้เสียอีก”
แน่นอนว่าทฤษฎีนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ เราตระหนักว่าการปลูกพืชคือหยอดเมล็ดลงในชั้นดิน แต่อย่างไรก็ตาม อาจจะพูดได้ว่า หากเครื่องจักรกลการเกษตรสามารถพัฒนาได้ตามเกณฑ์ข้างต้น ก็จะเป็นการนำรายได้มาสู่เกษตรกร และมีส่วนช่วยในการเพิ่มสภาพแวดล้อมในการปลูกอ้อย ซึ่งเครื่องจักรที่มีการใช้งานมากมายและอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมในเอเชีย ทำให้เราอาจจะเริ่มเห็นผลผลิตในไร่อ้อยหายไปและสูญเสียผลกำไรเนื่องจากความเสียหายของดิน ดังนั้น การพัฒนาดังกล่าวนี้จะสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้ในเอเชียนี้เท่านั้น เพราะเอเชียเป็นทวีปที่ได้รับผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆจากเกษตรกร และหวังว่าวิธีการที่ได้รับคำแนะนำนี้จะทำให้เอเชียกลายเป็นที่หนึ่ง!