COVER STORY

คาดการณ์แนวโน้มน้ำตาลในตลาดโลก ช่วงปี 2563-2564

น้ำตาลเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการผลิต บริโภค และจัดจำหน่ายกันทั่วโลก เพราะไม่ได้เป็นสินค้าที่ใช้ภายในระดับครัวเรือนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภทอีกด้วย อนาคตของตลาดน้ำตาลมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากนับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งบรรดาผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลกคือประเทศบราซิล อินเดีย และไทย นักวิเคราะห์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมน้ำตาลยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันว่าตลาดน้ำตาลในฤดูกาลนี้จะอยู่ในสภาวะล้นหรือขาดตลาด โดยสาเหตุของความเห็นต่างนั้นอยู่ที่ปัจจัยอย่างการระบาดของโควิด-19 ว่าจะส่งผลให้การบริโภคลดน้อยลงหรือจะเป็นการผลักดันให้ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดอย่างบราซิลสามารถกอบโกยผลกำไรจากการผลิตน้ำตาลเมื่อราคาเอทานอลลดต่ำลง

ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปี 2019 ถึง 2020 นั้น ปริมาณของการผลิตน้ำตาลทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 166.2 ล้านเมตริกตัน เป็นผลมาจากการที่ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ลดปริมาณการผลิตลงจากปัญหาด้านสภาพอากาศและการผลิตเอทานอลออกมาในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น โดยปริมาณการผลิตน้ำตาลของบราซิลช่วงปี 2562-2563 นั้นถูกจำกัดไว้ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตเอทานอล เพราะเอทานอลสามารถจำหน่ายได้กำไรดีกว่า ฤดูกาลเพาะปลูกในพื้นที่ภาคกลางตอนใต้ของบราซิลช่วงปี 2562-2563 สิ้นสุดลงด้วยปริมาณผลผลิตอ้อยคั้นจำนวน 589 ล้านเมตริกตัน โดยที่น้ำอ้อย 35% จากจำนวนนี้ถูกนำไปผลิตเป็นน้ำตาล ส่วนที่เหลืออีก 65% ถูกนำไปผลิตเป็นเอทานอล พืชที่ใช้ในการผลิตน้ำตาลและเอทานอลให้ผลผลิตเป็นเอทานอลราว 33,000 ล้านลิตรในช่วงปี 2562-2563 ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ปัญหาสภาพอากาศและพื้นที่เพาะปลูกที่ลดน้อยลงเป็นสาเหตุให้ผลผลิตจากผู้ผลิตรายใหญ่มีปริมาณลดน้อยลง ภัยแล้งและภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรงทำให้ผลผลิตจากประเทศอินเดีย สหภาพยุโรป และไทยลดลง ตัวเลขผลผลิตโดยประมาณอยู่ที่ 28.9 ล้านเมตริกตัน 17.2 ล้านเมตริกตัน และ 8.2 ล้านเมตริกตันตามลำดับเมื่อเทียบกับตัวเลขผลผลิตของฤดูกาลก่อน ซึ่งอยู่ที่ 34.3 ล้านเมตริกตัน 17.9 ล้านเมตริกตัน และ 14.5 ล้านเมตริกตันตามลำดับ ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลเพาะปลูกระหว่างปี 2562-2563 นั้น มีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำตาลจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตลดน้อยลง แต่ในความเป็นจริงแล้วราคาน้ำตาลกลับดิ่งลงเกือบ 6% นับจากต้นปีนี้ โดยมีสาเหตุมาจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก

มีการคาดการณ์ว่าในฤดูกาลหน้านั้น ผลผลิตน้ำตาลทั่วโลกอาจจะมีต่ำกว่าความต้องการถึง 1.1 ล้านตัน โดยเป็นการประมาณการณ์ของ Patricia Luis-Manso หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดการเกษตรและเชื้อเพลิงชีวภาพขององค์กร S&P Global Platts ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับการประมาณของ John Stansfield นักวิเคราะห์ชำนาญการของบริษัท Group Sopex ในขณะที่ทางฝั่งของ Raissa Cury Pires da Silva หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดน้ำตาลอเมริกาของบริษัท ED&F Man นั้นได้พยากรณ์ว่าทั่วโลกจะเจอกับสภาวะปริมาณน้ำตาลล้นตลาดต่อเนื่องเป็นปีที่สอง

องค์กร S&P Global Platts ระบุว่า ปริมาณการบริโภคน้ำตาลทั่วโลกมีการลดลงอยู่แล้วก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาด ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น ส่วนโรคระบาดนั้นทำให้ความต้องการน้ำตาลของฤดูกาลที่แล้วลดลง 2.5 ล้านตันเมื่อเทียบกับการประมาณการณ์ก่อนเกิดวิกฤติโควิด และคาดว่าความต้องการน้ำตาลจะลดลงไปอีกเรื่อยๆ โดยยุโรปเป็นพื้นที่หนึ่งซึ่งความต้องการน้ำตาลลดลงมากที่สุด โดยคาดว่าความต้องการจะลดต่ำลงถึง 500,000 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าการประมาณการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรป

ผลผลิตน้ำตาลอาจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปี 2563-2564

ตามรายงานเกี่ยวกับสภาวะตลาดและการค้าน้ำตาลทั่วโลกของกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกานั้นได้มีการคาดการณ์ว่าผลผลิตน้ำตาลในช่วงปี 2563-2564 จะเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 188 ล้านเมตริกตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น 21.8 ล้านเมตริกตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562-2563 มีการทำนายว่าผลผลิตจากประเทศบราซิล อินเดีย และไทยจะฟื้นตัวกลับมา โดยคาดว่าผลผลิตน้ำตาลในบราซิลจะเพิ่มขึ้นไปถึง 39.5 ล้านเมตริกตันจากความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไปเพราะมีการนำผลผลิตจากอ้อยมาแปรรูปเป็นน้ำตาลมากกว่าเอทานอล ราคาน้ำมันเบนซินในปัจจุบันที่ลดต่ำลงทำให้อุตสาหกรรมเอทานอลซบเซา จึงทำให้ผู้ผลิตเปลี่ยนไปผลิตน้ำตาลแทนเอทานอล ส่งผลให้สัดส่วนการผลิตของน้ำตาลต่อเอทานอลในปัจจุบันอยู่ที่ 46% และ 54% เมื่อเทียบกับตัวเลข 35% และ 65% ของช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “พื้นที่เพาะปลูกบางแห่งได้รับน้ำฝนมากกว่าปีที่แล้ว 20% เข้ามาช่วยขจัดภัยแล้งที่เกิดต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน เรียกว่าน้ำฝนเข้ามาช่วยไว้แท้ๆ ตอนนี้ก็ต้องรอดูว่าฝนจะช่วยให้อ้อยโตเร็วมากขึ้นหรือไม่” มีการประมาณการณ์ว่าผลผลิตน้ำตาลของไทยจะเพิ่มขึ้นไปถึงประมาณ 12.9 ล้านเมตริกตัน โดยมีสาเหตุจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และคาดว่าปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมถึงกันยายนจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูพืชผลที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งก่อนหน้านี้ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของไทย ระบุว่า ปริมาณน้ำฝนของประเทศในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากระดับฝนที่สูงกว่าปีที่แล้ว และมีการพยากรณ์ว่าเมื่อถึงเดือนตุลาคมปริมาณฝนก็จะเริ่มลดน้อยลงในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นพื้นที่หลักสำหรับเพาะปลูกอ้อยของไทย มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีปริมาณฝนตกมากกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังเป็นปริมาณที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 30 ปีของประเทศไทย

เมื่อกลับมามองบราซิล ที่อาจมีแนวโน้มจะผลิตน้ำตาลมากกว่าเอทานอลในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวระหว่างปี 2563-2564 จึงคาดว่าผลผลิตน้ำตาลของบราซิลจะเพิ่มขึ้นอีกราวๆ 9 ล้านเมตริกตันเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำตาลเกินตลาดโลกอยู่เป็นจำนวน 5 ล้านเมตริกตันในช่วงปี 2563-2564 ที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้แม้ว่าราคาน้ำมันและค่าเงินเรียลบราซิลที่กำลังฟื้นตัวในช่วงปีนี้อาจจะทำให้ราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้นได้บ้าง แต่ปริมาณน้ำตาลที่คาดว่าจะล้นตลาดก็จะไปกดดันราคาของน้ำตาลในช่วงฤดูกาลหน้า ซึ่งในฤดูกาลนี้ โรงงานผลิตน้ำตาลในพื้นที่ภาคกลางตอนใต้ของบราซิลได้เปลี่ยนสัดส่วนการผลิตไปที่น้ำตาลเป็นหลักเนื่องจากน้ำตาลมีราคาจำหน่ายสูงกว่า เอทานอลอยู่พอสมควรและสร้างผลกำไรได้มากกว่า นี่ถือเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพราะจากสภาวะน้ำตาลล้นตลาดโลกเมื่อไม่นานมานี้ทำให้โรงงานต่างๆ หันไปผลิตเอทานอลมากกว่าน้ำตาล โดยมีสัดส่วนการผลิตน้ำตาลต่อ เอทานอลอยู่ที่ 45.92% เมื่อเทียบกับตัวเลขของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 33.31%

ทั้งนี้ Plinio Nastari หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัท Datagro ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านน้ำตาลและเอทานอลคาดว่าสภาพอากาศที่รุนแรงของบราซิลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะทำให้ผลผลิตอ้อยลดน้อยลง ทำให้ปริมาณน้ำอ้อยและน้ำตาลจะลดต่ำลงในช่วงฤดูกาลถัดไปของปีหน้า มีการคาดการณ์ว่าผลผลิตอ้อยในพื้นที่ภาคกลางตอนใต้ของบราซิลจะอยู่ที่ 575 ล้านตันในช่วงเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2564 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 เมื่อเทียบกับตัวเลขผลผลิต 596 ล้านตันในปัจจุบัน คาดว่าโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ภาคกลางตอนใต้ของบราซิลจะมีผลผลิตน้ำตาลอยู่ที่ 36 ล้านตันในช่วงปี พ.ศ. 2564-2565 เมื่อเทียบกับตัวเลข 38 ล้านตันในปัจจุบัน

เขากล่าวว่า “โรงงานน้ำตาลจะต้องเลื่อนกำหนดการหีบอ้อยในปีหน้าออกไปก่อนเพื่อรอให้ต้นอ้อยฟื้นตัวกลับมา” ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงผลกระทบอันเหนือความคาดหมายที่เกิดขึ้นจากสภาพอากาศของบราซิลในปีนี้ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อภาคการเกษตร แต่ปริมาณผลผลิตที่ลดต่ำลงเพียงเล็กน้อยก็น่าจะยังทำให้โรงงานน้ำตาลสามารถทำกำไรได้ในฤดูกาลถัดไป เพราะราคาน้ำตาลและเอทานอลกำลังอยู่ในจุดที่ใกล้ทำสถิติใหม่เมื่อคิดเป็นค่าเงินเรียลบราซิล จากการที่ราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้โรงงานผลิตน้ำตาลสามารถทำกำไรได้อย่างงดงามจากผลผลิตที่มีการทำสัญญาซื้อขายไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง นักวิเคราะห์มองว่าโรงงานน้ำตาลของบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลกจะสามารถสร้างรายได้ในปริมาณมหาศาลได้เป็นเวลาถึงสามปีติดต่อกันหากดูจากสัญญาณชี้วัดในปัจจุบัน

ในส่วนของสมาคมโรงงานผลิตน้ำตาลของอินเดีย (ISMA) ระบุว่า ผลผลิตน้ำตาลในประเทศอินเดียจะเพิ่มขึ้นอีกราวร้อยละ 31 ไปอยู่ที่ 31 ล้านตันในช่วงฤดูกาลตลาดของปี 2563-2564 ซึ่งเริ่มต้นในเดือนนี้เนื่องจากปริมาณอ้อยที่เพิ่มสูงขึ้น โดยฤดูกาลน้ำตาลจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงกันยายน ทางไอเอสเอ็มเอคาดการณ์ว่าในช่วงฤดูกาลของปี 2563-2564 นั้น ปริมาณผลผลิตน้ำตาลในประเทศจะอยู่ที่ 33 ล้านตัน ซึ่งเป็นการคำนวณจากจำนวนอ้อยที่จะถูกหีบในโรงงานน้ำตาลของฤดูกาลนี้ แต่ทางสมาคมโรงงานผลิตน้ำตาลของอินเดียก็คาดว่าการนำน้ำอ้อยและกากน้ำตาลประเภทบีไปใช้ในการผลิตเอทานอลจะทำให้สูญเสียน้ำตาลไป 2 ล้านตัน และผลผลิตน้ำตาลโดยรวมจะคงเหลืออยู่ที่ 31 ล้านตัน

ตัวเลขนี้ถือเป็นผลผลิตที่เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนซึ่งมีปริมาณอยู่ที่ 27.4 ล้านตัน โดยมีปัจจัยหลักถึง 48% มาจากพื้นที่เพาะปลูกอ้อยของรัฐมหาราษฏระที่ขยายตัวขึ้น นอกจากนี้พื้นที่เพาะปลูกอ้อยในบริเวณอื่น ๆ ของอินเดียก็มีการขยายตัวเช่นเดียวกัน เช่นในรัฐกรณาฏกะและรัฐคุชราต แต่พื้นที่เพาะปลูกในรัฐอุตตรประเทศและทมิฬนาฑูกลับลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้น้ำฝนจากมรสุมในเกือบทุกรัฐของอินเดียอยู่ในปริมาณมาก ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งก็เต็มเปี่ยม ทำให้คาดว่าผลผลิตของอ้อยจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำตาลคงค้างจากปีที่แล้วมีอยู่ถึง 10.6 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นจำนวนที่มากกว่าความต้องการบริโภคในประเทศถึง 5.5 ล้านตันสำหรับช่วงหลายเดือนถัดไปก่อนที่จะถึงฤดูกาลจำหน่ายน้ำตาลตามท้องตลาด โดยทางสมาคมโรงงานผลิตน้ำตาลของอินเดียได้ระบุไว้ว่า “ตามที่เราคาดการณ์ไว้ว่าผลผลิตน้ำตาลของประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปี 2562-2563 ทำให้อินเดียต้องส่งออกน้ำตาลส่วนเกินออกไปให้ได้อีกราวๆ 6 ล้านตันในช่วงเวลาดังกล่าว”

คาดการณ์การบริโภคน้ำตาลจะเพิ่มสูงขึ้นในปี 2562-2563

กระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า ปริมาณการบริโภคน้ำตาลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2562-2563 ซึ่งคิดเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น 6.2 ล้านเมตริกตัน และจะทำให้ตัวเลขการบริโภคน้ำตาลทั่วโลกอยู่ที่ 177 ล้านเมตริกตันเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562-2563 โดยมีการทำนายว่าปริมาณการบริโภคจะค่อยๆ ฟื้นตัวเนื่องจากวิกฤติไวรัสโคโรนาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของหลายประเทศ คาดกันว่าปริมาณการบริโภคน้ำตาลในประเทศอินเดีย รัสเซีย ปากีสถาน และอียิปต์จะเพิ่มขึ้นราว 28.5 ล้านเมตริกตัน 6.2 ล้านเมตริกตัน 5.8 ล้านเมตริกตัน และ 3.3 ล้านเมตริกตัน ตามลำดับ ส่วนตัวเลขปริมาณการบริโภคน้ำตาลในสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอีกราว 11.1 ล้านเมตริกตัน และ 4.38 ล้านเมตริกตันตามลำดับ ในขณะที่ปริมาณการบริโภคน้ำตาลของจีน สหภาพยุโรป และบราซิลคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ก็มีการคาดการณ์ว่าปริมาณการบริโภคน้ำตาลในอินโดนีเซีย บังกลาเทศ มาเลเซีย เกาหลีใต้ แอลจีเรีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปี 2562-2563 และการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทาน กิจกรรมค้าขาย และเศรษฐกิจทั่วโลกต้องหยุดชะงักเพราะมาตรการจำกัดการเดินทาง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความต้องการบริโภคน้ำตาลทั่วโลกในช่วงปี 2562-2563 แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มต้นที่จะผ่อนคลายมาตรการปิดสถานที่ และได้ริเริ่มนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อมกับการป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมในระลอกใหม่ ท่ามกลางการปรับตัวเข้าสู่ชีวิตตามวิถีปกติใหม่ ข้าพเจ้าเชื่อว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัว และเราจะมีวิธีการรักษาโรคระบาดนี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณการบริโภคน้ำตาลในช่วงปี 2563-2564 มีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น

vulkan vegas, vulkan casino, vulkan vegas casino, vulkan vegas login, vulkan vegas deutschland, vulkan vegas bonus code, vulkan vegas promo code, vulkan vegas österreich, vulkan vegas erfahrung, vulkan vegas bonus code 50 freispiele, 1win, 1 win, 1win az, 1win giriş, 1win aviator, 1 win az, 1win azerbaycan, 1win yukle, pin up, pinup, pin up casino, pin-up, pinup az, pin-up casino giriş, pin-up casino, pin-up kazino, pin up azerbaycan, pin up az, mostbet, mostbet uz, mostbet skachat, mostbet apk, mostbet uz kirish, mostbet online, mostbet casino, mostbet o'ynash, mostbet uz online, most bet, mostbet, mostbet az, mostbet giriş, mostbet yukle, mostbet indir, mostbet aviator, mostbet casino, mostbet azerbaycan, mostbet yükle, mostbet qeydiyyat