คาดราคาน้ำตาลโลกอาจพุ่งพรวดในปี 2562/2563
สมาคมตลาดหลักทรัพย์ระหว่างประเทศหรือ ISMA คาดการณ์ว่าราคาน้ำตาลมีแนวโน้มจะขึ้นสูงในฤดูกาลหน้า เนื่องมาจากการผลิตน้ำตาลอาจน้อยลงจาก 33 ล้านตันเป็น 28-30 ล้านตัน
อภินาช เวอร์มา เลขาธิการของ ISMA ชี้แจงในการให้สัมภาษณ์กับ ETNOW ว่า “หลังจากที่มีน้ำตาลล้นทะลักในตลาดระหว่างประเทศมาสองปี จึงเกิดการคาดการณ์ว่าอาจมีความขาดแคลนน้ำตาลเป็นปริมาณ 2-4 ล้านตันในช่วงฤดูกาลหน้า ทำให้ราคาน้ำตาลอาจขยับเพิ่มขึ้นจากราคาเดิมในตลาดโลก ณ ปัจจุบัน”
นายอภินาชกล่าวเสริมว่า “ได้เกิดมีปริมาณน้ำตาลล้นตลาดในหลายๆ ประเทศ และในฤดูกาลที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายนนี้ มีปริมาณน้ำตาลเกินมาประมาณ 4-4.5 ล้านตัน”
ดังนั้น ในปีหน้าคือระหว่างปี 2562-2563 ซึ่งฤดูกาลน้ำตาลจะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำตาล หลังจากมีน้ำตาลล้นตลาดระหว่างประเทศขึ้น จึงคาดกันว่าอาจจะเกิดการขาดแคลนปริมาณน้ำตาลประมาณสองถึงสี่ล้านตันในฤดูกาลหน้า และเป็นเหตุให้ราคาอาจเพิ่มขึ้นจากปกติ
ในส่วนของตลาดท้องถิ่น ประเทศอินเดียยังคงผลิตน้ำตาลปริมาณ 32-33 ล้านตันในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา ความต้องการน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 25.5 ถึง 26 ล้านตันในช่วงแต่ละปี ดังนั้น ดุลสินค้าคงคลังในฤดูกาลปัจจุบันที่มีปริมาณราวๆ 10.7 ล้านตันเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 อาจจะเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 14.5 ล้านตันในช่วงปลายฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดความแห้งแล้งในรัฐมหารัชตะและภาคเหนือของรัฐคาร์นาตะกะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการผลิตน้ำตาลของรัฐเหล่านี้ จึงทำให้ในฤดูกาลหน้า การผลิตน้ำตาลอาจลดลงจาก 33 ล้านตันในฤดูกาลปัจจุบัน เป็น 28-29 ล้านตันหรือเพียง 30 ล้านตันก็เป็นได้ นี่คือการคาดคะเนของวันที่ 1 กรกฎาคม 2562
นายอภินาช กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราได้เห็นสิ่งที่แย่ที่สุดไปแล้วในฤดูกาลนี้ ผมมีเหตุผลที่จะพูดเช่นนี้ ประการแรก จากปริมาณประมาณ 10.7 ล้านตันเมื่อเปิดคลังในฤดูกาลนี้ เราจะเริ่มฤดูกาลถัดไปด้วยปริมาณราวๆ 14.5 ล้านตัน แต่ตัวแทนผู้ค้าอ้อยของรัฐมหารัชตะกำลังพูดกันถึงจำนวนที่ต่ำลงถึงเกือบสี่ล้านตันในฤดูกาลหน้าที่จะเกิดเฉพาะในรัฐดังกล่าวเพียงแห่งเดียว”
สถานการณ์ทางการตลาดชี้ให้เห็นว่าปริมาณราวๆ 33 ล้านตันในขณะนี้ จะลดลงถึงเกือบ 28-29 หรือ 27 ล้านตัน มีการคาดคะเนถึงความขาดแคลนประมาณสี่ล้านตันฤดูกาลหน้า ซึ่งเปิดโอกาสให้อินเดียส่งออกน้ำตาลไปสู่ตลาดโลกได้
อภินาชเสริมว่า “ในประเทศอินเดีย เรากำลังพยายามมุ่งเป้าและส่งออกน้ำตาลเกือบเจ็ดล้านตันในฤดูกาลถัดไป และหากการผลิตมีจำนวนมากหรือน้อยกว่าปริมาณการบริโภค ในปีหน้าเราคิดว่าจะเปิดคลังน้ำตาลที่มีปริมาณประมาณ 14.5 ล้านตันในตอนนี้ลดลงถึงราวๆ แปดล้านตันในช่วงปลายฤดูกาล”
ด้วยเหตุนี้ ยอดน้ำตาลคงเหลือและดุลสินค้าคงคลังซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่เกือบ 45,000 รูปี ณ ขณะนี้อาจลดลงอยู่ที่ประมาณแปดล้านตันซึ่งมีมูลค่าประมาณ 20,000 รูปีของเงินทุนหมุนเวียน นายอภินาชจึงรู้สึกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในฤดูกาลถัดไป
ดังนั้น หากสามารถค้นพบเส้นทางการส่งออกน้ำตาลผ่านแม่น้ำเข้าสู่ประเทศบังกลาเทศ และหากมีการพัฒนาเส้นทางนี้ รัฐอุตรประเทศจะสามารถส่งออกน้ำตาลเป็นปริมาณมากไปยังบังกลาเทศได้ในช่วงฤดูกาลถัดไป