จีนโชว์ศักยภาพพลังงานชีวภาพเข้าร่วม แผนเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพระดับโลก
ประเทศจีนเข้าร่วมโปรแกรมเทคโนโลยีด้านพลังงานชีวภาพขององค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เพื่อ “นำพาสู่ยุคใหม่” ของการพัฒนาพลังงานชีวภาพ อีกทั้งองค์กร EIA ยังมีความยินดีจะประกาศว่าประเทศจีนได้เข้าร่วมโปรแกรมนี้อย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้มีประเทศที่เข้าร่วมทั้งหมดในขณะนี้ถึง 26 ประเทศ โดยประเทศจีนมีทรัพยากรชีวมวลสูงซึ่งอาจจะทำให้เกิดการผลิตพลังงานชีวภาพยั่งยืนในอนาคต อีกทั้งจีนเองยังมีความก้าวหน้าในด้านนี้โดยกระจายพลังงานชีวภาพไปในทุกภาคส่วน ทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานชีวมวลมากขึ้นและเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพสูงขึ้นตามไปด้วย
จากข้อมูลของ IEA ชี้ให้เห็นว่าในปี 2562 ประเทศจีนมีการใช้พลังงานชีวภาพเพิ่มมากเกินกว่าครึ่งหนึ่งในภาคพลังงานไฟฟ้า (4.7 กิกาวัตต์) และยังเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงเอทานอลรายใหญ่อันดับสามของโลก เพราะในปี 2561 พลังงานความร้อนและไฟฟ้าจากชีวมวลทำให้เกิดงานเพิ่มขึ้นประมาณ 186,000 งานโดย 145,000 งานนั้นมาจากก๊าซชีวภาพ
โดยแรกเริ่ม องค์กรพลังงานหมุนเวียนแห่งชาติของจีนวางแผนจะร่วมงานเกี่ยวกับพลังงานชีวภาพของ EIA จำนวนสองแผน นั่นคือ “พลังงานจากก๊าซชีวภาพ” (แผนที่ 37) และ “ผลกระทบของสภาพอากาศและความยั่งยืนของพลังงานชีวภาพภายใต้เศรษฐกิจชีวภาพในวงกว้าง” (แผนที่ 45) ดร. เปาโล แฟรงเคิล หัวหน้าฝ่ายพลังงานหมุนเวียนและองค์กรพลังงานนานาชาติ แสดงความยินดีกับแผนด้านพลังงานชีวภาพขององค์กร EIA ที่ทำให้เกิดความพยายามผลักดันจนประสบความสำเร็จในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับประเทศจีน
โจว เคจุน ที่ปรึกษาระดับอาวุโสด้านพลังงานชีวภาพขององค์กรพลังงานหมุนเวียนแห่งชาติของจีนเสริมว่า “พลังงานชีวภาพเป็นมุมมองที่สำคัญของการสร้างประเทศจีนที่ก้าวหน้า เพราะจีนพัฒนาทรัพยากรชีวมวลอย่างเป็นอย่างดีและมีการออกนโยบายสำคัญๆเกี่ยวกับก๊าซชีวภาพ พลังงานชีวภาพ และพลังงานความร้อนชีวภาพในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับวงการพลังงานชีวภาพของจีน”
จิม สปาเอธ ประธานด้านพลังงานชีวภาพขององค์กร EIA กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีต้อนรับจีนเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของเราและหวังว่าจีนจะให้ความสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม” ทั้งนี้เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่มี “โอกาสการเติบโตสูง” ในด้านพลังงานไฟฟ้าชีวภาพ ก๊าซชีวภาพ ผลิตภัณฑ์ชีวภาพและเชื้อเพลิงชีวภาพ
การเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการดังกล่าวของจีนถือเป็น “สิ่งสำคัญ” ของการพัฒนาพลังงานชีวภาพของประเทศนี้ จากข้อมูลของดร. เหริน ดองหมิง ผู้อำนวยการขององค์กรพลังงานหมุนเวียนแห่งชาติของจีน กล่าวว่า อุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพของประเทศถือเป็น “ความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม” กับหน่วยงานพลังงานชีวภาพระดับโลก เขากล่าวว่า “ในด้านแผนเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพ จีนสามารถเรียนรู้จากรูปแบบและแนวคิดที่ก้าวหน้าและยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์ของตนเองร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติเพื่อบรรลุผลประโยชน์ร่วมกัน และการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก รวมทั้งยังมีโอกาสส่งเสริมกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปใช้พลังงานสีเขียว และพลังงานที่ใช้คาร์บอนต่ำของโลกอีกด้วย”
“ผมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกโปรแกรมดังกล่าวขององค์กร EIA ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติและโอกาสด้านนวัตกรรมในวงกว้างสำหรับสถาบันพลังงานชีวภาพของจีน รวมทั้งมีการพัฒนาและใช้แหล่งทรัพยากรชีวมวลให้มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างศักยภาพของการวิจัยและพัฒนาทางเทคโนโลยีชีวภาพ ทำให้นโยบายด้านพลังงานชีวภาพเกิดประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย ถือการนำพาสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาพลังงานชีวภาพในประเทศจีนอย่างแท้จริง”
ประเทศจีนมีทรัพยากรชีวมวลที่โดดเด่น การสร้างพลังงานชีวภาพที่ยั่งยืนจะนำไปสู่การมีอากาศที่สะอาดขึ้น เสริมสร้างความปลอดภัยทางพลังงาน มีการจัดการของเสียและบรรลุความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศจีนมีความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวแล้วเพราะมีการนำพลังงานชีวภาพไปใช้ในการผลิตไฟฟ้าทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาชีวมวล และการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพสูงขึ้น ดังนั้น การเป็นสมาชิกในโปรแกรมเทคโนโลยีด้านพลังงานชีวภาพขององค์กร EIA จะทำให้เกิดการผลักดันและเร่งให้จีนพัฒนาพลังงานชีวภาพอย่างยั่งยืน และเป็นผู้นำการตลาดที่มีความเชี่ยวชาญร่วมกับกับผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพอื่นๆ ทั่วโลกต่อไป