นักวิจัยโปรตุเกส สกัดสารไบโอซิลิกาจากอ้อยได้เป็นผลสำเร็จ
คณะเทคโนโลยีชีวภาพแห่งมหาวิทยาลัยคาทอลิกาโปรตุเกส ร่วมกับบริษัท Amyris ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีชีวภาพสังเคราะห์ของธุรกิจความงามและสุขภาพแบบปลอดสารเคมี และให้บริการส่วนผสมจากธรรมชาติแบบยั่งยืน ได้นำเสนอผลงานการวิจัยที่สำคัญ นั่นคือ สารไบโอซิลิกา (Biosilica) สกัดจากอ้อยซึ่งใช้ได้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยเฉพาะการเป็นส่วนผสมใหม่ในรองพื้น ครีม โลชั่นและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในการเป็นทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนและให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าสารซิลิกาชนิดดั้งเดิม
ที่จริงแล้ว ไบโอซิลิกานั้นได้มาจากเถ้าของอ้อยที่ถูกเผาในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาลสำหรับสร้างพลังงาน รวมทั้งใบอ้อยที่เกิดจากการเก็บเกี่ยวอ้อย และกากชานอ้อย ซึ่งเป็นเส้นใยพืชที่ได้มาหลังจากกระบวนการผลิตน้ำตาลของโรงงาน ส่วนผสมชนิดใหม่นี้ถือเป็นส่วนผสมที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกจากทรัพยากรแบบยั่งยืนและสามารถใช้ในอุตสาหกรรมความงาม เป็นทางเลือกที่ดีกว่าซิลิกาแบบทั่วไป ที่สกัดมาจากทราย ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีการใช้งานอยู่แล้วทั่วโลก
นวัตกรรมส่วนผสมใหม่นี้ นำโดยบริษัท Amyris โดยมีการอ้างอิงวิจัยจากองค์กรแกรนด์ วิว ไว้ว่า ตลาดเครื่องสำอางสำหรับการแต่งหน้า (Color Cosmetics) นั้น จะทำรายได้ประมาณ 87 พันล้านดอลลาร์ในการค้าปลีกภายในปี พ.ศ. 2568 ด้วยอัตราการเจริญเติบโตโดยรวมต่อปีประมาณร้อยละหก และจากการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์มวลรวม มากกว่าร้อยละสิบของตลาดเครื่องสำอางแบบแต่งหน้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มีซิลิกาเป็นส่วนผสม
“การค้นพบครั้งแรกนี้ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันระหว่างสององค์กรที่ ดำเนินการไปในทิศทางกลยุทธ์เดียวกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความมุ่งมั่นของนักวิจัยระดับแนวหน้ามากกว่า 100 คน ในช่วงเวลาสองปีที่มีการสร้างส่วนผสมใหม่ที่ตลาดรองรับ นั่นคือการให้ความสำคัญกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาที่ยั่งยืน” มานุแอลลา ปินทาดุ นักวิจัยและผู้ประสานงานโครงการเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส หรือเรียกอีกชื่อว่า Alchemy Project แถลง
นายมิเกล บาร์โบซาจากบริษัท Amyris Bio Products Portugal อธิบายว่า “ส่วนผสมดังกล่าวสร้างเครื่องสำอางที่ปลอดภัย นั่นคือ ความสวยแบบปลอดสารเคมี (Clean Beauty) ที่สะอาดกว่าเดิมและเป็น ‘โครงการแรก’ ของการเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมระดับนานาชาติด้านเทคโนโลยีชีวภาพซึ่งมีความแข็งแกร่งของวิทยาศาสตร์ประยุกต์และความมุ่งมั่นของความเป็นผู้นำกิจการด้านการตลาด” โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทในเครือของกลุ่ม Amyris ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ ซึ่งตั้งอยู่ในเอเมอรีวิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีจอห์น เมลุ ชาวอเมริกันเชื้อสายโปรตุเกส เป็นผู้บริหารระดับสูง
“ไบโอซิลิก้าเป็นมากกว่าส่วนผสมที่ยั่งยืน เพราะแสดงให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์สามารถช่วยเพิ่มคุณค่าจากของเสียในอุตสาหกรรม ปกป้องความยั่งยืนของทรัพยากรโลก และในขณะเดียวกันก็ส่งเสริม ‘ความงามแบบปลอดสารเคมี’ โดยให้มีการพัฒนาเครื่องสำอางที่สะอาดและปลอดภัย” ราเกล มาดุเอรา นักวิจัยโครงการดังกล่าวอธิบายเพิ่มเติม ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะออกสู่ท้องตลาดโดยบริษัท Aprinnova ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีชีวภาพของอเมริกา ที่มีการผลิตเครื่องสำอางแบบยั่งยืนและเป็นหุ้นส่วนของบริษัท Amyris
โครงการ Alchemy เป็นผลจากความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างมหาวิทยาลัยคาทอลิกาแห่งโปรตุเกส บริษัท Amyris Bio Products Portugal และรัฐบาลโปรตุเกสผ่านหน่วยงาน AICEP โดยมีเงินทุนสนับสนุนผ่านข้อตกลง Portugal 2020 และโปรแกรมปฏิบัติการ FEDER ซึ่งก่อนหน้านี้ โครงการได้เริ่มในปี พ.ศ. 2561 โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากผลพลอยได้หรือเศษเหลือจากกระบวนการหมักและการผลิตอ้อย ดังนั้น จึงช่วยเพิ่มการพัฒนาโมเลกุลใหม่ที่มีผลประโยชน์ทางการค้าสูง โดยเน้นที่อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อาหารมนุษย์ อาหารสัตว์ วัสดุใหม่ๆ และยารักษาโรค
นายลูอิช คาชตรุ เอนริกึช ประธานของหน่วยงาน AICEP กล่าวว่า “ผลลัพธ์แรกที่มาจากโครงการ Alchemy มีความสำคัญมาก และเราได้ติดตามกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นผ่านสัญญาการวิจัยและพัฒนาที่สร้างขึ้นระหว่าง Amyris และมหาวิทยาลัยคาทอลิกาแห่งโปรตุเกส ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2561 และเราเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มการส่งออกด้วยการใช้เทคโนโลยีระดับสูง ทั้งนี้ การเป็นหุ้นส่วนกับมหาวิทยาลัยคาทอลิกา ได้สื่อถึงการยอมรับคุณภาพของระบบมหาวิทยาลัยและความสามารถในการวิจัยของรัฐบาล รวมทั้งเป็นการบ่งบอกความสามารถพิเศษของโปรตุเกสซึ่งเป็นพื้นฐานของความสำเร็จของโครงการดังกล่าว”