บราซิล-อินเดียกระชับความร่วมมือผลิตเอทานอล พร้อมยุติข้อพิพาทน้ำตาลใน WTO
บราซิลและอินเดีย สองผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลกร่วมมือด้านเทคโนโลยีการผลิตเอทานอล ช่วยแก้ไขข้อพิพาทการอุดหนุนน้ำตาลที่องค์การการค้าโลก (WTO) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการยืนยันจาก นายเคนเนธ เฟลิกซ์ ฮาซินสกี โนเบรกา เอกอัครราชทูตบราซิลประจำอินเดีย
นายโนเบรกา เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งระหว่างสองประเทศ โดยกล่าวว่าได้เริ่มต้นการพูดคุยเกี่ยวกับเอทานอลแล้ว การมุ่งเน้นผลิตเอทานอลสามารถช่วยแก้ปัญหาการผลิตน้ำตาลเกินของโลกที่อาจส่งให้ราคาตกต่ำลง “ความสัมพันธ์ในหลายด้านเป็นไปด้วยดี เราเริ่มต้นการพูดคุยที่มุ่งเน้นการใช้เอทานอล เนื่องจากเอทานอลสามารถลดปริมาณการผลิตน้ำตาล (ทั่วโลก) ที่มากเกินไปที่ส่งผลให้ราคาตกต่ำลง”
บราซิลเริ่มโครงการผสมเอทานอลในปี พ.ศ. 2518 เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีแก่อินเดียในเดือนกันยายน 2566 ระหว่างการประชุมสุดยอด G20 ที่อินเดีย ได้เปิดตัวพันธมิตรเชื้อเพลิงชีวภาพระดับโลกเพื่อเพิ่มการผลิตและความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ โดยบราซิลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ
ในปี พ.ศ. 2562 บราซิล ออสเตรเลีย และกัวเตมาลา ได้แสดงความกังวลต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เกี่ยวกับนโยบายของอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาที่เป็นธรรมและคุ้มค่า (FRP) ที่มอบให้กับเกษตรกร ซึ่งอ้างว่ามาตรการเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับกฎการค้าโลก อินเดียตอบโต้โดยระบุว่า FRP รัฐบาลเป็นผู้กำหนด แต่การซื้ออ้อยทั้งหมดทำโดยโรงงานน้ำตาลเอกชน ไม่ใช่จากรัฐบาลกลางหรือรัฐบาลท้องถิ่น
นายโนเบรกา เน้นย้ำว่า มีความร่วมมือที่กำลังดำเนินอยู่หลายระดับ รวมถึง ระหว่างรัฐกับรัฐ (G2G) ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) และระหว่างธุรกิจกับรัฐบาล (B2G) เพื่อแบ่งปันเทคโนโลยีและเพิ่มการผลิตเอทานอลในอินเดีย
นายฟลาวิโอ คาสเตลลารี ผู้อำนวยการทั่วไปของกลุ่มผู้ประกอบการเอทานอลบราซิล กล่าวว่า บราซิลได้บรรลุอัตราการผสมเอทานอลในน้ำมันเบนซินที่ 27% นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพ นอกจากนี้ รถยนต์ 84% ในบราซิลติดตั้งเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแบบยืดหยุ่นที่สามารถใช้ได้กับน้ำมันเบนซินและเอทานอลในสัดส่วนใดก็ได้ นายคาสเตลลารี กล่าวว่า ภายใต้นโยบายใหม่ที่รอการอนุมัติ คาดว่าการผสมเอทานอลในน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% บราซิลยังร่วมมือกับอินเดียในด้านต่าง ๆ ของการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงการวิจัย พัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยี เอทานอล 40 พันล้านลิตรที่ผลิตได้ต่อปีในบราซิล 80% มาจากอ้อยและที่เหลือมาจากข้าวโพด
ในอินเดีย อัตราการผสมเอทานอลในน้ำมันเบนซินแตะระดับ 15.83% ในเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีอัตราการผสมสะสมเกิน 13% และสำหรับปีจัดหาเอทานอล (ESY) 2566-2567 (พฤศจิกายน-ตุลาคม) ที่กำลังดำเนินอยู่ รัฐบาลอินเดียตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายการผสมเอทานอล 20% ภายในปี พ.ศ. 2568-2569
นอกจากนี้ นายเมาโร วิเอรา รัฐมนตรีต่างประเทศบราซิล มีกำหนดเดินทางเยือนอินเดียระหว่างวันที่ 25-28 สิงหาคม พ.ศ. 2567 นายวิเอราและนายชัยศังกระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอินเดียจะร่วมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมอินเดีย-บราซิลครั้งที่ 9 โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีในหลากหลายสาขา รวมถึงเกษตรกรรมและปศุสัตว์
เอกอัครราชทูตโนเบรกายังกล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมา มีคณะผู้แทนทางธุรกิจจากบราซิลจำนวน 31 คณะ เดินทางเยือนอินเดียเพื่อเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ เขากล่าวเสริมว่า ขณะนี้มีการหารือเพื่อดึงดูดการลงทุนจากอินเดียในบราซิลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิตอ้อย