บริษัทพลังอินโดนีเซียพร้อมสร้างโรงงานผลิตเอทานอล เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในประเทศ
Pertamina New & Renewable Energy (Pertamina NRE) แสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจไบโอเอทานอล ความมุ่งมั่นนี้แสดงให้เห็นผ่านสองข้อตกลงความร่วมมือกับ PT Sinergi Gula Nusantara (SGN) และอีกข้อตกลงหนึ่งกับรัฐบาลจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออก (NTT) เมื่อวันที่ 5 กันยายน
ทางด้าน SGN ได้มีการลงนามในกรอบความร่วมมือโดย นายจอห์น อานิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Pertamina NRE และนายมาห์มูดิ ประธานกรรมการบริหารของ SGN ในขณะเดียวกันรัฐบาลจังหวัด NTT ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือโดย นายจอห์น อานิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Pertamina NRE และนายอาโยเดีย จี แอล คาลาเก รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด NTT
“ความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญทางยุทธศาสตร์ในแผนพัฒนาไบโอเอทานอลของเราในอินโดนีเซีย เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่าง Pertamina NRE, SGN และรัฐบาลจังหวัด NTT จะส่งผลดีต่อการเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานระดับชาติ Pertamina NRE มุ่งเน้นการจัดหาพลังงานใหม่และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงไบโอเอทานอล” นายจอห์น อานิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Pertamina NRE กล่าว
Pertamina NRE และ SGN ตกลงร่วมมือกันสร้างโรงงานผลิตไบโอเอทานอลใน Glenmore อำเภอบาญูวางี จังหวัดชวาตะวันออก โรงงานจะใช้โมลาส (ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการผลิตน้ำตาล) จากโรงงานน้ำตาล Glenmore โรงงานมีแผนการผลิต 30,000 กิโลลิตรต่อปี เทียบเท่ากับ 100 กิโลลิตรต่อวัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะสั้นสำหรับการพัฒนาธุรกิจไบโอเอทานอล
“เรายินดีร่วมมือกับ PNRE เนื่องจากสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ SGN ในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อความพยายามของรัฐบาลในการพัฒนาการผลิตไบโอเอทานอล ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับประธานาธิบดีหมายเลข 40/2566” นายมาห์มูดิ ประธานกรรมการบริหารของ PT Sinergi Gula Nusantara กล่าว
ขณะเดียวกัน Pertamina NRE ตกลงที่จะพัฒนาไบโอเอทานอลในจังหวัด NTT ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะกลางของ Pertamina NRE โดยคาดว่าความร่วมมือนี้จะสำรวจศักยภาพในการพัฒนาไบโอเอทานอล โดยระบุพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชพลังงานในจังหวัด NTT เช่น อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง และอื่น ๆ โครงการนี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนโครงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของอินโดนีเซียเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาภูมิภาค เพิ่มพูนสวัสดิการชุมชนและส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตร
“ขอบคุณสำหรับความคิดริเริ่มที่เป็นประโยชน์ เราหวังว่าความพยายามในการพัฒนาไบโอเอทานอลในจังหวัด NTT จะกลายเป็นก้าวสำคัญทางยุทธศาสตร์ เพื่อประโยชน์ต่อความก้าวหน้าของภูมิภาคและการปรับปรุงความเป็นอยู่ของชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิศาสตร์ของจังหวัด NTT เหมาะแก่การปลูกพืชพลังงาน เช่น ข้าวโพด ซึ่งเป็นพืชที่สำคัญสำหรับ PNRE” นายอาโยเดีย จี แอล คาลาเกกล่าว
การนำไบโอเอทานอลไปใช้เป็นส่วนผสมในเชื้อเพลิงเริ่มดำเนินการโดย Pertamina แล้ว ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Pertamax Green 95 ในปี 2566 สอดคล้องกับแผนของรัฐบาลในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในภาคการขนส่ง โดยจัดหาเชื้อเพลิงชีวภาพ รัฐบาลสนับสนุนการใช้ไบโอเอทานอลเป็นเชื้อเพลิงขนส่งเพื่อลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของชาติ สร้างงานใหม่ เพิ่ม GDP และมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยมลพิษในระยะยาว ความพยายามนี้สอดคล้องกับข้อบังคับประธานาธิบดีหมายเลข 40/2566 เพื่อเร่งการพึ่งพาตนเองด้านน้ำตาลในประเทศและการจัดหาไบโอเอทานอลเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ
นายฟัดจาร์ โจโก ซานโตโซ รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร PT Pertamina (Persero) กล่าวเสริมว่า Pertamina มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน รวมถึงการพัฒนาด้านระบบนิเวศเพื่อให้มั่นใจในการดำเนินการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างครอบคลุม ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานธุรกิจ เช่น Pertamina NRE และ SGN กับรัฐบาลจังหวัด NTT ก็เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้
“เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านพลังงาน Pertamina ไม่สามารถดำเนินการเพียงผู้เดียวได้ จะต้องร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของรัฐบาลอินโดนีเซียภายในปี 2603 หรือแม้กระทั่งเร็วกว่านั้น” นายฟัดจาร์ อธิบาย
ในการพัฒนาธุรกิจไบโอเอทานอล Pertamina NRE จะกลายเป็นซัพพลายเออร์ไบโอเอทานอลที่จะถูกนำไปแปรรูปและทำการตลาดผ่าน PT Pertamina Patra Niaga ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่ม Pertamina บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมความคิดริเริ่มด้านพลังงานสะอาด ในฐานะส่วนสำคัญในการดำเนินการตามหลักการ ESG สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (NZE)