‘บางจาก’ ลุยธุรกิจสีเขียว ผุดโรงงานไบโอ EEC
บางจากฯ รุกธุรกิจชีวภาพส่ง “บีบีจีไอ” จับมือ “มนัสไบโอ” ตั้งบริษัทร่วมทุน เล็งตั้งโรงงาน Syn Bio ผลิต Multi -Products ในอีอีซี แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดตัดสินใจปลายปี 64 พร้อมออกหุ้นกู้ต้นปี กว่า1,000 ล้านบาท
การแต่งตัวรุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกลุ่มบางจากฯ เมื่อปี 2561 โดยผนึกกำลัง กลุ่มน้ำตาลขอนแก่น ร่วมจัดตั้ง บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘บีบีจีไอ’ เพื่อเข้าลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์พลอยได้ เพื่อเป็นเส้นทางต่อยอดสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง สู่การขยายธุรกิจวัสดุชีวภาพและเคมีชีวภาพ รับภาครัฐเร่งผลักดันอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Industry)ในประเทศไทย
ผ่านมา 3 ปี ภาพของธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมีความชัดเจนขึ้น เมื่อล่าสุด บีบีจีไอ ในฐานะผู้นำ (flagship) ด้านธุรกิจ Bio-based products ในกลุ่มบางจากฯ ที่มุ่งเน้นแนวทางการทำธุรกิจภายใต้ BCG Economy Model ของประเทศ ได้ลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุน Series B Preferred Stock สัดส่วนประมาณ 5% หรือ มีมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท กลายเป็นผู้หุ้นอันดับ 1 ใน 5 ของ Manus Bio (มนัสไบโอ) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชีวนวัตกรรมจากกระบวนการหมักขั้นสูง (advanced bio-fermentation) ซึ่ง บีบีจีไอ จะเป็น Lead Investor ในการระดมทุน Series B ของ Manus Bio
นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีจีไอ กล่าวว่า บีบีจีไอ ยังได้ลงนามสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) ร่วมกับ Manus Bio แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน “WIN Ingredients” โดย บีบีจีไอ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 51% และ Manus Bio ถือหุ้น 49% เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รวมถึงมีแผนจะจัดตั้งโรงงาน Syn Bio แบบ Multi-Products แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เบื้องต้น มองว่าจะตั้งอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3ของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน คาดว่าจะสามารถตัดสินใจลงทุนจัดตั้งโรงงานฯ ได้ในช่วงปลายปี 2564
ทั้งนี้ Manus Bio มีพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกมากมายในผลิตภัณฑ์ธุรกิจชีวภาพ ต่างๆ อาทิ สารให้ความหวานจากธรรมชาติ สารปรุงแต่งสี กลิ่น รสจากธรรมชาติ วัตถุดิบชีวภาพสำหรับใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง รวมถึงวัตถุดิบชีวภาพสำหรับใช้ในการผลิตยาหรือชีวเภสัชภัณฑ์ และอื่นๆ รวมถึงได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของสิทธิบัตรสารพันธุ์แบคทีเรีย(จากหมัก) ที่ได้รับการตัดต่อพันธุกรรม สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ได้ถึง 60,000 ชนิด จากสายน้ำตาล ปัจจุบันมีการจัดตั้งโรงงานแห่งแรกในเมือง Augusta อเมริกา กำลังผลิต 1.3 ล้านลิตรของการหมัก และจะเริ่มทำตลาดเชิงพาณิชย์ในปี 2564
โดย บีบีจีไอ ก็ได้รับสิทธิ์ทดลองทำการตลาดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการนำสารให้ความหวานจากหญ้าหวาน ไปเจาะตลาดกลุ่มอาหารและเครื่องดื่นในช่วงต้นปี 2564
“ต้นปีหน้า บีบีจีไอ มีแผนออกหุ้นกู้ วงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้รีไฟแนนซ์เงินกู้ที่ในการซื้อหุ้น Series B ของ Manus Bio และต่อยอดการลงทุน และจะประเมินศักยภาพการทำตลาดในช่วงครึ่งปีแรก หากพบว่ามีแนวโน้มดี บีบีจีไอ ก็อาจพิจารณาเข้าสู่กระบวนการยื่น IPO ในช่วงครึ่งปีหลังปี 64 ต่อไป”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวว่า กลุ่มบางจากฯ ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสีเขียวเพื่อสังคมและความยั่งยืน ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้กลุ่มบางจากฯ สามารถขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงด้วยกลุ่มธุรกิจผู้นำนวัตกรรมสีเขียวผ่าน Bio Economy ที่ประเทศไทยมีอยู่ และตอบโจทย์การเพิ่มความหลากหลายในการทำธุรกิจ สร้างสมดุลระหว่างธุรกิจประเภทต่างๆ และที่สำคัญคือตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในการดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
“กลุ่มบางจากฯ ตั้งเป้าใน 5 ปีจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสีเขียว ทั้งจาก บีบีจีไอ และบริษัท บีซีพีจี เป็น 40-50% จาก ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 25-30% และจะเป็นธุรกิจหลักที่สร้างการเติบโตให้กับกลุ่มบางจาก ในอนาคต”