ภาคอุตฯ น้ำตาลและพลังงานบราซิลสร้างแคมเปญ ขยายตลาดเอทานอล
อุตสาหกรรมน้ำตาลและพลังงานของบราซิลตั้งเป้าผลักดันให้ผู้บริโภคเลือกใช้เอทานอลมากขึ้นในปี 2567 โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอทานอลเมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซิน
เชื้อเพลิงชีวภาพมีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าสู่ชั้นบรรยากาศและเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านพลังงานของบราซิล ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ถูกนำมาหารือในทุกงานที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมนี้
ในปีนี้ สมาพันธ์อุตสาหกรรมอ้อยแห่งประเทศบราซิล (Unica) ได้เปิดตัวแคมเปญ “Go Ethanol” เพื่อกระตุ้นให้ผู้ขับขี่หันมาใช้เอทานอลโดยเน้นย้ำถึงประโยชน์ของเชื้อเพลิงชีวภาพต่อโลก แคมเปญนี้ได้เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย วิทยุ และโทรทัศน์
หลายรัฐในบราซิล เช่น รัฐปาราอิบาและรัฐมินัสเชไรส์ได้ริเริ่มนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและเสริมสร้างภาคอุตสาหกรรมน้ำตาลและพลังงาน
นอกจากเอทานอลที่ผลิตจากอ้อยแล้ว เชื้อเพลิงที่ได้จากข้าวโพดก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในบราซิล และเป็นทางเลือกสำหรับการจัดหาเชื้อเพลิงภายในประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงนอกฤดูการผลิตอ้อย
ข้อมูลจากบริษัทการผลิตแห่งชาติบราซิล (Conab) ระบุว่า การผลิตเอทานอลจากข้าวโพดในบราซิลเพิ่มขึ้น 33.1% จากปี 2565/2566 ถึง 2566/2567 โดยมีปริมาณการผลิตอยู่ที่ 5.92 พันล้านลิตร สำหรับปี 2567/2568 (เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน 2567) คาดว่าปริมาณการผลิตจะอยู่ที่ 6.8 พันล้านลิตร
การใช้เอทานอลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยข้อมูลจากสำนักงานแห่งชาติปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงชีวภาพบราซิล (ANP) ระบุว่า ปริมาณการซื้อเอทานอลในรัฐเปร์นัมบูกูเพิ่มขึ้น 58% ในรัฐอาลาโกอัสเพิ่มขึ้น 30% และในรัฐปาราอิบาเพิ่มขึ้น 54% (เมื่อเทียบช่วงเดือนกันยายน 2566 ถึงมีนาคม 2567 กับช่วงเดียวกันในปี 2565/2566) ส่วนอัตราส่วนราคาของเอทานอลเทียบกับน้ำมันเบนซิน C ในสามรัฐผู้ผลิตอยู่ที่ประมาณ 71% ในฤดูการผลิต 2566/2567 (ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ถึงเมษายน 2567) ในฤดูการผลิต 2565/2566 อัตราส่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 75.6% ถึง 77.6%