อินโดนีเร่งเซียจัดหาพื้นที่ 1 ล้านเฮกตาร์ สร้างโรงงานน้ำตาล
รัฐบาลกำลังจัดหาพื้นที่กว่า 1 ล้านเฮกตาร์ในจังหวัดปาปัวสำหรับนักลงทุนที่สนใจสร้างโรงงานน้ำตาลเพื่อช่วยให้อินโดนีเซียบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านน้ำตาลได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอินโดนีเซีย แอนดี แอมราน สุไลมาน กล่าวเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา
“ด้วยพื้นที่กว่า 1 ล้านเฮกตาร์ เราสามารถดึงดูดบริษัทจำนวนมากได้ โรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งอาจต้องการพื้นที่ 20 ถึง 40 เฮกตาร์เพื่อให้มีกำลังการผลิต 12,000 ตันอ้อยต่อวัน (TCD)” สุไลมานกล่าวหลังการประชุมกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด (โจโกวี) ในกรุงจาการ์ตา
เขายังเสริมว่ารัฐบาลจะไม่จำกัดจำนวนนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สนใจจะสร้างโรงงานน้ำตาลในอินโดนีเซีย
“สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพึ่งพาตนเองด้านน้ำตาลของเรา จะบรรลุเป้าหมายนั้นได้หากสามารถสร้างโรงงานน้ำตาลได้ 20 ถึง 30 แห่ง ที่มีกำลังการผลิต 12,000 ตันอ้อยต่อวัน” สุไลมานกล่าวต่อ
คาดว่าจะต้องใช้เงินถึง 3 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 192.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งซึ่งมีกำลังการผลิต 12,000 ตันอ้อยต่อวัน
สุไลมานระบุว่าเริ่มมีบริษัทต่าง ๆ ปลูกอ้อยในจังหวัดปาปัวแล้ว กว่าที่อินโดนีเซียจะพึ่งพาตนเองด้านน้ำตาลได้คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก เนื่องจากอ้อยเป็นพืชล้มลุกที่มีระยะการเจริญเติบโตเป็นระยะ
“อ้อยเป็นพืชล้มลุกที่ต้องอาศัยการแปรรูปหลายขั้นตอน และยังต้องใช้ต้นกล้าที่มีคุณภาพสูงตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการอีกด้วย” เขากล่าวเสริม
นอกจากจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศในท้องถิ่นแล้ว ขั้นตอนการปลูกกล้าอ้อยอาจใช้เวลากว่า 3 ปีอีกด้วย และเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำตาล โรงงานน้ำตาลในจังหวัดปาปัวจะต้องสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สุไลมานกล่าว
“ในอินเดีย กำลังการผลิตน้ำตาลอาจสูงถึง 150 ตันต่อเฮกตาร์ ในขณะที่ในอินโดนีเซียทำได้เพียง 60–70 ตันเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้นกล้าคุณภาพสูงที่สามารถให้ผลผลิตขั้นต่ำ 100 ตันต่อเฮกตาร์” เขากล่าว