เปิดตัวโรงงานเชื้อเพลิงแอลกอฮอล์อากาศยาน แห่งแรกของยุโรป
สกายเอ็นจีอาร์ (SkyNRG) บริษัทสัญชาติประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับแลนซาเทค (LanzaTech) ผู้ให้บริการทางเทคโนโลยี ร่วมมือประกาศเป็นผู้นำในการสร้างโรงงานผลิตเแอลกอฮอล์สำหรับอากาศยาน (Alcohol to Jet: ATJ) ที่มีชื่อว่า LanzaJet เป็นแห่งแรกในยุโรป ซึ่งเป็นโรงงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้น โดยจะเปลี่ยนเอทานอลจากขยะจำนวน 30 000 ตันต่อปี ให้เป็นเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (sustainable aviation fuel: SAF) ทั้งนี้ บริษัทแลนซาเทค จะจัดหาเทคโนโลยีเอทีเจ (ATJ) ให้กับโรงงาน และรับผิดชอบในการออกแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานของโรงงาน ส่วนสกายเอ็นจีอาร์ จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานโครงการ และบริหารจัดการการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในการจัดส่งสินค้า

เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (SAF) มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดการปล่อยมลพิษจากภาคการบินในทศวรรษหน้า โดยเป็นเป้าหมายที่ถูกนำเสนอให้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “การเดินทางและการขนส่งอัจฉริยะแบบยั่งยืน” ของ European Green Deal และการริเริ่มกฎหมายใหม่ๆ อย่าง ‘EU ReFuelEU Aviation’ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างวัตถุดิบและเทคโนโลยีทางเลือกให้หลากหลายสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงดังกล่าว ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะปูทางไปสู่การผลิตเชื้อเพลิง SAF ทั่วยุโรปและทั่วโลก โดยผลิต ในปริมาณที่ต้องการในเชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับเป้าหมายทางด้านสภาพภูมิอากาศของการบินในอนาคต
ด้วยความต้องการเชื้อเพลิง SAF ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จึงจำเป็นต้องกระจายเทคโนโลยีและวัตถุดิบดังกล่าวในการผลิตแอลกอฮอล์สำหรับเชื้อเพลิงอากาศยานครั้งแรกในยุโรปนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดทิศทางของเชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน สามารถเข้าถึงได้และปรับขนาดได้มากขึ้น ซึ่งสนับสนุนความต้องการในการปล่อยมลพิษให้เป็นศูนย์ในอุตสาหกรรมการบิน บริษัทสกายเอ็นอาร์จี รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ FLITE นายมาร์เติน ฟาน ไดจ์ค กรรมการผู้จัดการของบริษัทสกายเอ็นจีอาร์ กล่าว
โดย FLITE ซึ่งเป็นองค์กรที่เชื้อเพลิงใช้เทคโนโลยีบูรณาการคาร์บอนต่ำจากเอทานอล กำลังพัฒนาโครงการนี้ ซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 และได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 20 ล้านยูโรจากโครงการ Horizon 2020 ของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยสถานที่ตั้งเฉพาะของโรงงาน แต่อย่างไรก็ตามหุ้นส่วนของกิจการค้าร่วมระบุว่าโรงงาน FLITE ATJ มีกำหนดการที่จะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2567
“การปรับลดปริมานคาร์บอนต้องอาศัยความร่วมมือและหุ้นส่วนที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่หุ้นส่วนของกิจการค้าร่วม FLITE ยกเป็นตัวอย่าง เราตั้งตารอคอยที่จะนำเทคโนโลยี ATJ จากบริษัทแลนซาเจท มาใช้ในยุโรป นี่เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาต่อยอดการผลิตเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนและสร้างวิถีสู่อนาคตคาร์บอนต่ำ เรารู้สึกขอบคุณการมอบเงินทุนของโครงการ Horizon 2020 ที่ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้น ดร.เจนนิเฟอร์โฮล์มเกรน ประธานกรรมการบริหารของบริษัทลานซาเทค กล่าว”
Fraunhofer องค์กรประยุกต์การวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จะกำกับดูแลและเผยแพร่การสื่อสารเกี่ยวกับโครงการ ส่วนที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์พลังงานและความยั่งยืน E4tech จะดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิต และองค์กรว่าด้วยวัสดุชีวภาพที่ยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Biomaterials: RSB) ที่มีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ มีมูลค่า และได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญมากที่สุดในโลกสำหรับเศรษฐกิจชีวภาพ จะสนับสนุนโครงการโดยการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับรองโรงงาน
เมื่อพิจารณาที่การเร่งพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศในด้านนวัตกรรม ความมั่นคงด้านพลังงาน และการสร้างงาน โครงการ FLITE ให้อะไรที่มากกว่าแค่เชื้อเพลิง ซึ่งโรงงาน FLITE ATJ จะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2567 ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ SAF โดยใช้เอทานอลจากขยะที่มาจากผู้ผลิตหลายรายในยุโรป
นอกจากนี้ยังการผลิตเชื้อเพลิง SAF ได้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับน้ำมันจากฟอสซิล และยังช่วยลดการปล่อยฝุ่นละอองและกำมะถันลงด้วย ดังนั้นเชื้อเพลิง SAF จึงได้รับการรับรองตามมาตรฐานที่มีความเข้มแข็งขององค์กร RSB
โครงการนี้ กล่าวถึงความท้าทายสำคัญสองประการที่ภาคการบินต้องเผชิญในปัจจุบัน นั่นคือ การลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลงอย่างรวดเร็วและการดำเนินการดังกล่าวอย่างยั่งยืน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายการผลิตเชื้อเพลิง SAF ในยุโรปและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานด้านความยั่งยืนอย่างเข้มงวดมากที่สุด โดย รอล์ฟ โฮแกน กรรมการบริหารขององค์กร RSB กล่าวว่า องค์กรมีภูมิใจที่ได้สนับสนุนพันธมิตรในการแสดงออกถึงประสิทธิภาพด้านความยั่งยืน และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบในระดับภูมิภาคและระดับโลกขององค์กร EU RED และ CORSIA