บทความพิเศษ

Evolve™ แพลตฟอร์มใหม่ สู่แผนพัฒนาตลาดเอทานอลไทยเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ

เมื่อไม่นานมานี้ Leaf by Lesaffre ได้เปิดตัว Evolve™ แพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ยีสต์ขั้นสูงสำหรับการผลิตเอทานอล โดยวิเวียน เซอร์ปา มูลเลอร์ ผู้จัดการนวัตกรรมสำหรับตลาดโลกแนะนำว่า “Evolve™ Evergreen เป็นสินค้าตัวแรกที่มาจากแพลตฟอร์ม Evolve™ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการหมักวัตถุดิบที่เป็นแป้ง”  มีวางจำหน่ายในประเทศไทยราว 2 – 3 เดือนและได้พิสูจน์ให้เห็นคุณค่าและความสามารถของตัวเองในโรงงานเอทานอล PSC Starch Products  

คริสโตเฟอร์ เทสเต ผู้จัดการฝ่ายบริการด้านเทคนิคประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแสดงความเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะเข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตเอทานอลของประเทศไทยได้  “Evolve™ Evergreen แสดงให้เห็นว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแป้งมันสำปะหลังผ่านการปรับปรุงผลผลิตและการลดกลูโคอะไมเลสจากภายนอกทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและระดับอุตสาหกรรมได้” 

สำรวจตลาด สร้างนวัตกรรมใหม่ 

ด้วยประสบการณ์ที่ทำตลาดในประเทศไทยมามากกว่า 10 ปี ทีมงาน Leaf by Lesaffre ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากความต้องการเอทานอลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงเหลือ 3.7 ล้านลิตรต่อวัน (MLPD) ซึ่งต่ำกว่ากำลังการผลิตปัจจุบันที่ 6 ล้านลิตรต่อวัน  จากการที่รัฐบาลไทยประกาศจะเลิกใช้ E85  ผู้ผลิตเอทานอลจึงถูกกดดันให้คงความสามารถในการแข่งขันขึ้นไปอีก 

อย่างไรก็ตาม E20 มีการแข่งขันด้านราคามากกว่า E85 สำหรับผู้ใช้งานและยังใช้ได้กับยานพาหนะหลากหลายประเภท ความต้องการเชื้อเพลิงเอทานอลน่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการใช้งาน E20 มากขึ้น 

ยิ่งไปกว่านั้น มีโอกาสที่ความต้องการเอทานอลไทยจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องด้วยรัฐบาลประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)  อุตสาหกรรมใหม่ ๆ  อาจได้รับการจูงใจให้ประยุกต์ใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น เช่น พลาสติกชีวภาพและการผลิตเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน 

Leaf by Lesaffre เป็นธุรกิจหนึ่งของ Lesaffre และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีชีวภาพอุตสาหกรรมระดับโลกที่มุ่งสร้างอนาคตที่ดีขึ้น 

Leaf เผยให้เห็นศักยภาพสูงสุดในด้านการหมักและพัฒนาจุลินทรีย์ รวมถึงกระบวนการทางอุตสาหกรรมเพื่อทำให้เกิดการผลิตหมุนเวียน  ด้วยความร่วมมือกับผู้เล่นที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจึงได้ออกแบบและพัฒนาโซลูชันทางชีวภาพประสิทธิภาพสูง 

จากการดำเนินธุรกิจ Lesaffre ที่กระจายอยู่ทั่วโลกและความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการหมักที่สั่งสมมาเป็นเวลานานถึง 170 ปี Leaf จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ชีวมวลและผลิตภัณฑ์ชีวภาพคุณภาพสูงและผลิตในท้องถิ่น  โดยมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการด้านการหมักของ Leaf และ Lesaffre (ห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาและห้องปฏิบัติการการประยุกต์ใช้งาน) ให้ทั้งสองบริษัทร่วมมือกันเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เอาชนะความท้าทาย และแสวงหาแนวทางในการปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น  ด้วยทีมงานที่มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน ความพึงพอใจของลูกค้า และนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ ทำให้ Leaf by Lesaffre เป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีการหมักเชิงอุตสาหกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน 

เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดเอทานอลไทยและรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ ผู้ผลิตเอทานอลจึงมองหาแนวทางที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของโรงงานที่มีอยู่ ในขณะที่นักลงทุนก็กำลังมองหาวิธีการผลิตที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำกว่าวิธีการผลิตเดิม เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ตัวชี้วัดสำคัญที่ต้องพิจารณาจึงเป็นมูลค่าโดยรวมที่สร้างขึ้นระหว่างการผลิต โดยคริสโตเฟอร์ เทสเต กล่าวไว้ว่า “การเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากการผลิตเอทานอลสามารถเกิดขึ้นได้จากการลดต้นทุนการผลิตหรือการเพิ่มผลผลิต”  ความสามารถในการทำกำไรนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้นเนื่องจากราคาเอทานอลในไทยมาจากความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานโดยตรง ทำให้ในตลาดนี้มีค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) ที่ต่ำกว่าจึงทำให้อัตรากำไรสูงยิ่งขึ้น 

ลีอา เจฟฟรอย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Leaf กล่าวเสริม “เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านเอทานอลไทย เราได้ติดตามวิวัฒนาการของตลาดอย่างต่อเนื่อง และสร้างสมดุลระหว่างสิ่งที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มกับสิ่งที่สามารถส่งมอบได้ตรงเวลาตามความต้องการของตลาดในปัจจุบัน” Leaf ใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถของ Lesaffre ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อนำ Evolve™ Evergreen และนวัตกรรมอื่น ๆ เข้าสู่ตลาด  ด้วยความสามารถด้านพันธุวิศวกรรมและวิศวกรรมเมตาบอลิซึม การคัดกรองสมรรถนะสูง และยีสต์ แบคทีเรีย รวมถึงเชื้อราที่หลากหลาย ทำให้ Leaf และ Lesaffre มีความสามารถและความยืดหยุ่นในการปรับแต่งจุลินทรีย์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน สารตั้งต้น และสภาวะการหมักที่แตกต่างกัน  “เรารู้ว่าการหมักไม่ได้มีรูปแบบเดียวที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์” วิเวียน เซอร์ปา มูลเลอร์ กล่าวว่า “ทีมงานของเราในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างนวัตกรรมนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถตอบสนองต่อความต้องการและข้อจำกัดของลูกค้าได้ตลอดเวลา”

ในปี 2565 ทาง Lesaffre เปิดตัววิทยาเขตใหม่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส  ด้วยวิทยาเขตนี้จะจะมอบให้กับกลุ่มบริษัทเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายด้านการวิจัยและพัฒนา 60% ของพื้นที่ทั้งหมดมีไว้สำหรับห้องปฏิบัติการวิจัยที่ทันสมัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการทำงานโดยอัตโนมัติและการวิเคราะห์เพื่อรองรับวิศวกรรมกระบวนการชีวภาพ และโครงการนำร่องอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป

Evolve™ Evergreen ผลิตภัณฑ์ยีสต์ขั้นสูงที่สำคัญกับตลาดเอทานอลไทย 

Evolve™ Evergreen ได้รับการพัฒนาจาก Leaf โดยเฉพาะ เพื่อให้ตอบสนองต่อความท้าทายในการผลิตเอทานอล คือ การเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มผลผลิตให้สูง ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด วิเวียน เซอร์ปา มูลเลอร์ กล่าวว่า “เราได้ควบรวมความเชี่ยวชาญระหว่าง Leaf และ Green Lab เข้ากับสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Lesaffre และ Recombia Biosciences เพื่อพัฒนา Evolve™ Evergreen ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยีสต์ขั้นสูงสำหรับการผลิตเอทานอลรุ่นแรกจากแป้ง”  การแบ่งปันองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญกับพันธมิตรภายในและภายนอกบริษัท ทำให้ Leaf พัฒนายีสต์ที่ยืดหยุ่นี่สามารถหลั่งกลูโคอะไมเลส (Glucoamylase) ได้และให้ผลผลิตที่สูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมของการผลิตเอทานอล 

ลีอา เจฟฟรอย  กล่าว “ราคาในตลาดที่ไม่คงที่ ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากอาจส่งผลต่ออัตรากำไรได้อย่างรวดเร็ว มีหลายวิธีที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงตัวชี้วัดการผลิต ผลประโยชน์จากผลผลิต หรือไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าเพิ่มผ่านผลผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดต้นทุนของเอนไซม์ด้วยการทดแทนเอนไซม์จากภายนอกในหน่วยผลิต  ด้วยผลิตภัณฑ์ Evolve™ Evergreen เราสามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ และสามารถสร้างมูลค่าได้มากขึ้น”   

Evolve™ Evergreen พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองกับการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ (Cassava mash) ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและระดับอุตสาหกรรม  ความน่าเชื่อถือแม้อยู่ภายใต้อุณหภูมิ 30-40°C ยังช่วยให้กระบวนการหมักเป็นไปได้อย่างราบรื่นและคงประสิทธิภาพของพืชไว้ได้  ด้วยผลิตภัณฑ์นี้ Leaf จะช่วยลดการผลิตกลีเซอรอลได้อย่างน้อย 30% ซึ่งให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นสูงถึง 2%  และจากความสามารถในการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น การหลั่งกลูโคอะไมเลสของ Evolve™ Evergreen สามารถลดกรดจิบเบอเรลลิก (GA) จากภายนอกได้อย่างน้อย 50%  สิ่งนี้ช่วยให้จัดการกับปัจจัยการผลิตได้อย่างชาญฉลาดที่ส่งผลต่อการลดต้นทุนการดำเนินงานของโรงงานเอทานอลโดยรวมได้ 

ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำในไทย 

“การเป็นพันธมิตรกับ PSC Starch Products นับตั้งแต่เปิดตัว Evolve™ Evergreen ในประเทศไทย ทำให้เราสามารถตรวจสอบมันสำปะหลังซึ่งเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในระดับอุตสาหกรรมได้  อุปกรณ์ของพวกเขาและการตรวจสอบการหมักในระดับสูง ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการประยุกต์ใช้งานผลิตภัณฑ์ของเรา ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทดลองใช้ Evolve™ Evergreen ที่โรงงานเอทานอลของ PSC ประสบความสำเร็จ” คริสโตเฟอร์ เทสเต กล่าว  

เพื่อให้การทดลองทางอุตสาหกรรมนี้ประสบความสำเร็จตามมาตรฐานของ PSC ทีมงาน Leaf ที่ไซต์งานได้ใช้เวลาอันมีค่าในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทีมผู้ผลิตเพื่อปรับให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการสำหรับการทดลองนี้ วิธีการใช้ Evolve™ Evergreen รวมถึงการวัดประสิทธิภาพภายใต้กระบวนการหมักพืชในปัจจุบัน  การบูรณาการระหว่างความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิตของ PSC และความเชี่ยวชาญของ Leaf ในการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้เกิดการนำ Evolve™ Evergreen ไปใช้จนประสบความสำเร็จ 

ในส่วนของผลลัพธ์นั้น Evolve™ Evergreen ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 2% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์พื้นฐาน  ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นสัมพันธ์โดยตรงกับการผลิตกลีเซอรอลที่ลดลง 40%  ผลลัพธ์เหล่านี้เมื่อพิจารณาจากการลดกลูโคอะไมเลสจากภายนอกได้ 50% คุ้มค่าเมื่อเทียบกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากยีสต์อย่างชัดเจน  ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นตัวแทนของมูลค่าที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขการทดลองมาตรฐานโดยไม่มีการปรับปรุงใด ๆ ในเงื่อนไขกระบวนการหมัก  “เป็นไปได้สูงที่เราจะเพิ่มประสิทธิภาพนี้ขึ้นไปอีกได้ด้วยการปรับเงื่อนไขกระบวนการผลิต เช่น ช่วงเวลาในการหมัก อุณหภูมิในการหมัก ความดันออสโมติก โภชนาการ ฯลฯ” คริสโตเฟอร์ เทสเต กล่าว 

P.S.C. Starch Products เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังและน้ำตาลมายาวนานกว่า 66 ปี  ด้วยวิสัยทัศน์ในแวดวงอุตสาหกรรมและความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจให้ไปถึงจุดสูงสุด บริษัทจึงกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลแป้งที่มีการดำเนินงานตามมาตรฐานระดับสากล  อุตสาหกรรมในเครือบริษัทประกอบด้วยอุตสาหกรรมน้ำตาลแป้ง อุตสาหกรรมเอทานอล อุตสาหกรรมข้าว อุตสาหกรรมปาล์ม และอุตสาหกรรมเหล็ก 

เป้าหมายในอนาคต 

ลีอา เจฟฟรอย กล่าว “เราคาดว่าความต้องการเอทานอลจะเพิ่มขึ้นจากการที่ไทยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานหมุนเวียนทางชีวภาพในด้านเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) พลาสติกชีวภาพ เครื่องสำอาง ฯลฯ” ด้วยปริมาณน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วที่มีปริมาณจำกัดซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ วัตถุดิบทางเลือกสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนนี้จะเป็นเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้องการเอทานอลในปีต่อ ๆ ไป 

ประเทศไทยตั้งใจที่จะลดการพึ่งพาพลังงานนำเข้ารวมถึงน้ำมัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นอันตรายผ่านแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP)  แรงจูงใจทางการเมืองส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรม ซึ่งความยั่งยืนกลายเป็นข้อกังวลที่ได้รับการพูดถึงมากยิ่งขึ้น  คริสโตเฟอร์ เทสเต เห็นพ้องว่า “ผู้ผลิตกำลังมองหาแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  นอกจากนี้ยังเริ่มเห็นฉลากและการรับรองด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำตาลและเอทานอลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย” 

vulkan vegas, vulkan casino, vulkan vegas casino, vulkan vegas login, vulkan vegas deutschland, vulkan vegas bonus code, vulkan vegas promo code, vulkan vegas österreich, vulkan vegas erfahrung, vulkan vegas bonus code 50 freispiele, 1win, 1 win, 1win az, 1win giriş, 1win aviator, 1 win az, 1win azerbaycan, 1win yukle, pin up, pinup, pin up casino, pin-up, pinup az, pin-up casino giriş, pin-up casino, pin-up kazino, pin up azerbaycan, pin up az, mostbet, mostbet uz, mostbet skachat, mostbet apk, mostbet uz kirish, mostbet online, mostbet casino, mostbet o'ynash, mostbet uz online, most bet, mostbet, mostbet az, mostbet giriş, mostbet yukle, mostbet indir, mostbet aviator, mostbet casino, mostbet azerbaycan, mostbet yükle, mostbet qeydiyyat