น้ำเชื่อมบริสุทธิ์ นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจำเป็นต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตอยู่เสมอ การหันมาใช้น้ำเชื่อมบริสุทธิ์เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่-โคล่า ได้ริเริ่มนโยบายเปลี่ยนสารให้ความหวาน จากน้ำตาลทรายเกรดขาวบริสุทธิ์ (Refined sugar) มาเป็นน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ (Liquid sugar) ซึ่งมีคุณภาพไม่ต่างกัน แต่อยู่ในรูปของเหลวที่พร้อมใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องนำมาละลายก่อน จึงอาจกล่าวได้ว่านวัตกรรมการผลิตน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตน้ำตาลด้วย
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจำเป็นต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตอยู่เสมอ การหันมาใช้น้ำเชื่อมบริสุทธิ์เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่-โคล่า ได้ริเริ่มนโยบายเปลี่ยนสารให้ความหวาน จากน้ำตาลทรายเกรดขาวบริสุทธิ์ (Refined sugar) มาเป็นน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ (Liquid sugar) ซึ่งมีคุณภาพไม่ต่างกัน แต่อยู่ในรูปของเหลวที่พร้อมใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องนำมาละลายก่อน จึงอาจกล่าวได้ว่านวัตกรรมการผลิตน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตน้ำตาลด้วย
โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเลือกที่จะเปลี่ยนมาใช้น้ำเชื่อมบริสุทธิ์คือ การลดต้นทุนการผลิต และความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูงและต้องการใช้วัตถุดิบในรูปของเหลว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ กาแฟและชาพร้อมดื่ม ฯลฯ หากใช้น้ำตาลทรายขาวจะต้องผ่านขั้นตอนการเตรียมก่อนนำไปใช้ ซึ่งรวมถึงการละลายน้ำตาลให้ได้ความเข้มข้นที่เหมาะสม การกรองด้วยถ่านคาร์บอน และการกรองด้วยกระดาษกรองที่มีความละเอียดสูง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทั้งสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและยังเสียเวลาในการดำเนินงาน ดังนั้น การเปลี่ยนมาใช้น้ำเชื่อมบริสุทธิ์จึงสามารถช่วยลดทอนขั้นตอนเหล่านี้ออกไป ช่วยลดต้นทุนในการผลิต และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของโรงงานได้อีกด้วย
นอกจากน้ำเชื่อมบริสุทธิ์จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มแล้ว โรงงานน้ำตาลเองก็ได้ประโยชน์จากกระบวนการผลิตน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ ซึ่งมีกรรมวิธีแตกต่างไปจากน้ำตาลทรายด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการผลิตน้ำตาลทรายจะเริ่มต้นจากการนำน้ำตาลทรายดิบมาละลายให้เป็นน้ำเชื่อม แล้วนำไปผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ทั้งการกรอง และการลดค่าสีจนได้น้ำเชื่อมรีไฟน์ (Refined liquor syrup) จากนั้นนำไปเคี่ยวให้เป็นผลึกน้ำตาล และแยกสิ่งเจือปนที่เรียกว่า กากน้ำตาล หรือโมลาส (Molasses) ออกมา ซึ่งในกากน้ำตาลที่ขจัดทิ้งนี้ ยังคงมีส่วนประกอบของน้ำตาลปนสูงถึงร้อยละ 50 ดังนั้น โรงงานน้ำตาลจึงสูญเสียผลผลิตระหว่างการกระบวนการผลิตราวร้อยละ 1.5 ถึงร้อยละ 2 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อต้องทิ้งน้ำตาลที่ผสมอยู่ในโมลาส
ในอีกด้านหนึ่ง กระบวนการผลิตน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ คือการนำน้ำเชื่อมรีไฟน์ที่ยังคงมีทั้งสีและสารละลายที่ไม่ใช่น้ำตาลปนอยู่ไปผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ขั้นสูง ซึ่งรวมถึงการดูดซับสี การขจัดแร่ธาตุด้วยเรซินแลกเปลี่ยนไอออน กระบวนการกำจัดกลิ่นและรส การทำให้ปราศจากเชื้อ และการระเหยเพิ่มความเข้มข้น เพื่อให้ได้น้ำเชื่อมบริสุทธิ์คุณภาพสูง จากขั้นตอนการผลิตน้ำเชื่อมบริสุทธิ์นี้ จะเห็นว่าน้ำเชื่อมรีไฟน์ทั้งหมดสามารถแปรสภาพให้กลายเป็นน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ได้ โดยไม่ต้องสูญเสียน้ำตาลไปกับโมลาส ส่งผลให้โรงงานได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และการผลิตน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ที่กำลังการผลิต 60,000 ตันต่อปี สามารถสร้างกำไรจากผลิตผลเพิ่มได้ถึง 13.5-18 ล้านบาทต่อปี โดยยังไม่นับรวมผลประโยชน์ที่ได้จากการลดต้นทุนการผลิตในส่วนอื่นๆ และโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันน้ำตาลยังคงเป็นสารให้ความหวานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการปรุงแต่งรสชาติอาหารและเครื่องดื่ม และน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ได้กลายเป็นวัตถุดิบหลักที่ถูกนำมาใช้ทดแทนน้ำตาลทรายขาวเนื่องจากทางฝั่งผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสามารถลดขั้นตอนในการเตรียมน้ำตาล ทำให้กระบวนการผลิตมีความสะดวกรวดเร็วขึ้น ส่วนทางฝั่งโรงงานน้ำตาลก็สามารถลดการสูญเสียน้ำตาล และเพิ่มผลผลิตของโรงงานได้ จึงได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นแหล่งเพาะปลูกอ้อย และส่งออกน้ำตาลเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เราจึงมีความได้เปรียบอย่างมากในเชิงวัตถุดิบ ดังนั้นการพัฒนาต่อยอดธุรกิจของโรงงานน้ำตาล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของตลาดอย่างน้ำเชื่อมบริสุทธิ์ จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจโรงงานน้ำตาล และขยายโอกาสในการเพิ่มมูลค่าของสินค้า อีกทั้งยังเป็นการช่วยพัฒนาภาคเกษตรกรรมของประเทศไปพร้อมกันด้วย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่