พันธุ์อ้อยนำร่อง สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้อุตสาหกรรมน้ำตาลประเทศจีน
ทีมวิจัยจากหน่วยงานวิจัยอ้อยเขตหลิ่วเฉิง (LC-SRU) ได้พัฒนาพันธุ์อ้อยรุ่น 5 หรือ LC05-136 ที่ได้กลายเป็นพันธุ์อ้อยชั้นนำของประเทศจีน เนื่องจากให้ผลผลิตและค่าความหวานสูง ทนทานต่อความแห้งแล้งและความหนาวเย็นได้ดี
ความสำเร็จของพันธุ์อ้อยนี้ที่ปลูกในพื้นที่กว่า 1.67 ล้านเฮกตาร์ในปี 2566 สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของการปรับปรุงพันธุ์อ้อยโดยคำนึงถึงการผสมผสานคุณสมบัติอย่างสมดุลกัน การพัฒนาพันธุ์อ้อยนี้อย่างต่อเนื่องมีแนวโน้มเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมน้ำตาลของจีนที่จะส่งผลดีต่อทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการ
อ้อยเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตน้ำตาลโดยคิดเป็น 90% ของปริมาณน้ำตาลทั้งหมดในประเทศ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจ เกษตรกรรมและวิถีชีวิตของผู้คน ในปี 2566 มีการปลูกอ้อยในพื้นที่เกษตรกรรมหลัก ๆ ของประเทศ ได้แก่ มณฑลกว่างซี ยูนนาน กวางตุ้ง และไห่หนาน คิดเป็นประมาณ 1.11 ล้านเฮกตาร์
แม้จะมีการปรับปรุงพันธุ์อ้อยมาแล้ว 5 รุ่นที่ให้ผลผลิตและค่าความหวานที่สูงขึ้น แต่ยังคงมีอุปสรรคด้านสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ปลูกอ้อยทางตอนเหนือสุดของเมืองหลิ่วโจว มณฑลกว่างซี
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Tropical Plants เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 รายงานเกี่ยวกับพันธุ์อ้อยเฉพาะถิ่นอย่างพันธุ์อ้อย LC05-136 ที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายเพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตน้ำตาลมีความมั่นคง

ในปี 2548 ลู่เหวินเซียง ผู้อำนวยการหน่วยงานวิจัยอ้อยเขตหลิ่วเฉิงได้พัฒนาพันธุ์อ้อย LC05-136 จากกล้าอ้อยกว่า 100,000 ต้น ที่ได้มาจากการผสมข้ามระหว่างพันธุ์ CP81-1254 และ ROC22 พันธุ์อ้อยนี้มีลักษณะเด่นคือ ลำต้นสูง แข็งแรง และเจริญเติบโตปานกลาง ปล้องรูปร่างทรงกระบอก ใบตั้งตรง ลำต้นสีเขียว กาบใบสีม่วงแดงและผลัดใบง่าย
พันธุ์ LC05-136 มีข้อดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการให้ผลผลิตและค่าความหวานที่สูง ทนแล้ง ทนหนาว แตกกอได้ดีและปรับตัวเก่ง ทำให้เหมาะกับการปลูกในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางทั่วทุกภูมิภาค เช่น กว่างซี กวางตุ้ง ยูนนาน และไห่หนาน
ในปี 2566 พันธุ์ LC05-136 กลายเป็นพันธุ์อ้อยชั้นนำรุ่น 5 ที่ปลูกไปแล้วมากกว่า 1.67 ล้านเฮกตาร์ทั่วประเทศจีน ทว่ายังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ต้านทานการล้มได้เล็กน้อย แตกกอไม่ค่อยดีในบางพื้นที่ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแส้ดำในอ้อย
ความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์อ้อย LC05-136 แสดงให้เห็นว่าการใช้พันธุ์ ROC22 เป็นต้นแบบและการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ประสบการณ์ของเกษตรกรยังช่วยให้กระบวนการคัดเลือกพันธุ์อ้อยให้มีความเหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว
ตามที่เซวีย โย่วฉง หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า “ลู่เหวินเซียงได้รับรางวัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชนะเลิศจากรัฐบาลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เป็นการยืนยันและได้รับการยอมรับจากเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและผู้ประกอบการ ทั้งนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมน้ำตาลที่เป็นสิ่งที่สมควรได้รับอย่างแท้จริง”
แม้ว่าพันธุ์ LC05-136 จะประสบความสำเร็จ แต่ยังมีปัญหาอยู่ เช่น การต้านทานโรคแส้ดำในอ้อยแสดงให้เห็นว่ายังจำเป็นต้องมีการปรับปรุงพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ดังคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีพืชพันธุ์ใดที่สมบูรณ์แบบ มีแต่พืชพันธุ์ที่ดีกว่า” ท้ายที่สุด อ้อยพันธุ์ LC05-136 อาจถูกแทนที่ด้วยพันธุ์อ้อยใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่นักปรับปรุงพันธุ์อ้อยส่วนใหญ่ยังคงมุ่งมั่นในการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ต่อไป