ไทยเตรียมเว้นภาษีไบโอเอทานอล ผลิตพลาสติกรักษ์สิ่งแวดล้อม
หน่วยงานในประเทศไทยกรมสรรพสามิตได้เตรียมยกเว้นภาษีไบโอเอทานอล หนุนผลิตไบโอพลาสติก ดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมลุยแก้กฎหมายเปิดทางผู้ประกอบการนำเอทานอลไปใช้ประโยชน์ได้
นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า ตามที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิตได้วางกลยุทธ์การบริหารงานของกรมในปี 2566 ด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยภาษีสรรพสามิตที่เน้น ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) นั้น ภาษีตัวแรกที่กรมจะดำเนินการคือ “ภาษีไบโอเอทานอล” (Bioethanol) ที่เป็นวัตถุดิบทำไบโอ-เอธทิลีน (bio-ethylene) ที่จะนำไปสู่ผลิตเม็ดไบโอพลาสติก (Bioplastic) ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยขณะนี้ สำนักแผนนโยบายของ กรมสรรพสามิต ได้ร่วมทำกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) กับผู้ผลิตเอทานอล และผู้ใช้ คือ โรงงานเอธทิลีนในประเทศไทย ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วเรียบร้อย หลังจากนี้จะนำเรื่องไปเสนอกับคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ บอร์ดบีซีจี ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
“ปัจจุบันมีกฎหมายกำหนดไว้ว่า เอทานอลที่ถูกผลิตออกมาจะต้องถูกนำไปใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงเท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลจะต้องแก้กฎหมาย และเปิดโอกาสในผู้ประกอบการนำเอทานอลไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ อาทิ ผลิตเป็นไบโอเอทานอล เพื่อนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตเม็ดไบโอพลาสติกต่อไป ซึ่งปกติแล้วเอธทิลีนจะผลิตมาจากปิโตเคมี ทำให้ในกระบวนการผลิตมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ถ้าทำจากเอทานอลก็จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้หรือแทบไม่มีเลย” นายเกรียงไกรกล่าว
ทั้งนี้ เอทานอลนั้นผลิตมาจากน้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือมันสำปะหลัง ดังนั้นจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดสาย โดยเข้าไปกำกับและควบคุมตั้งแต่การกระบวนการปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ใช้ปุ๋ยชีวภาพ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี และไม่มีการเผาไร่เพื่อการเก็บเกี่ยว
สำหรับตัวเอทานอล ปัจจุบันกรมสรรพสามิตก็ทำการยกเว้นภาษีสำหรับเอทานอลที่ใช้ผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่แล้ว และมีแนวคิดว่าถ้านำไปใช้ในการผลิตจากไบโอพลาสติกก็จะได้ยกเว้นภาษีด้วยเช่นกัน ปัจจุบันโรงงานเอทานอลในประเทศไทยทั้งหมด 24 โรงที่สามารถส่งไปใช้ในการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงได้เท่านั้น แต่จำนวนเอทานอลที่ผลิตนำไปผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นมีเหลือล้นในตลาด เพราะผู้ผลิตนำไปใช้เพื่อการอื่นไม่ได้นอกจากน้ำมันเชื้อเพลิง
“กรมมีแผนที่จะยกเว้นภาษีให้กับตัวเอทานอลที่ผลิตเป็นไบโอเอทานอล ตัวไบโอ-เอธทิลีน และไบโอพลาสติกที่ได้จากเอทานอล หรือกล่าวคือยกเว้นภาษีให้กับผลิตภัณฑ์ตลอดทั้งสาย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางให้ผู้ประกอบการไม่มีภาระภาษี เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมและให้ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้ไบโอพลาสติกที่ได้มาราคาจับต้องได้มากขึ้น”
อย่างไรก็ดี การจะผลิตไบโอเอทานอลนั้นจะต้องจัดตั้งโรงงานเอทานอลใหม่ ปัจจุบันเรื่องได้เสนอไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้วรอลงนามไปถึงบอร์ดบีซีจี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึ่งทางบอร์ดจะคัดเลือกเรื่องที่สามารถเสนอในช่วงรัฐบาลรักษาการได้ก็จะเสนอไปก่อน โดยคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปี ที่จะได้เห็นแผนงานดังกล่าว