ESDM ดัน PT Pertamina เข้าซื้อกิจการเอทานอลในบราซิล
กระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ (ESDM) สนับสนุนแผนการเข้าซื้อกิจการบริษัทผลิตเอทานอลชีวภาพในบราซิลของ พีที เปอร์ตามีนา (PT Pertamina) ที่เป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของอินโดนีเซีย เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมตลาดเอทานอลชีวภาพในอินโดนีเซีย
นายดาดัน กุสเดียนา เลขาธิการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ เน้นย้ำว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวที่มุ่งพัฒนาตลาดเอทานอลชีวภาพภายในประเทศ
เอทานอลชีวภาพที่ผลิตจากพืช เช่น อ้อย มักถูกนำมาผสมกับน้ำมันเบนซินเพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ
นายดาดัน กล่าวในการประชุม ณ กระทรวงพลังงานและแร่อินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 ว่า “นี่เป็นขั้นตอนเบื้องต้นเพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถดำเนินการต่อและขยายตลาดในประเทศได้'”
แม้ว่าในระยะสั้นจะเน้นการนำเข้าเอทานอลชีวภาพ แต่นายดาดันได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายระยะยาวในการสร้างห่วงโซ่การผลิตภายในประเทศที่สมบูรณ์ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งจะทำให้อินโดนีเซียได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
นายดาดันยังกล่าวอีกว่า ประโยชน์ในการลดคาร์บอนไดออกไซด์นั้นมาจากการเจริญเติบโตของอ้อยที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลชีวภาพ ในกระบวนการเจริญเติบโต อ้อยจะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนออกมาช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
หากการผลิตเกิดขึ้นในต่างประเทศ แล้วนำมาใช้ในประเทศของเรา ประโยชน์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะตกเป็นของประเทศผู้ผลิตในต่างประเทศ ในขณะที่การปล่อยก๊าซจากการเผาไหม้เกิดขึ้นที่นี่” เขากล่าว
เปอร์ตามีนากำลังดำเนินการศึกษาอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการโรงงานน้ำตาลและเอทานอลในประเทศบราซิล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีโจโกวี ที่ต้องการให้เปอร์ตามีนาขยายธุรกิจไปสู่แนวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมุ่งสู่อนาคต
เมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 นายฟัดจาร์ โจโก ซานโตโซ รองประธานฝ่ายการสื่อสารองค์กรเปอร์ตามีนากล่าวว่า “ขณะนี้เรายังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบธุรกิจอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”
ประธานาธิบดีโจโกวีให้การสนับสนุนในการขยายธุรกิจไปสู่แนวทางที่ยั่งยืนและมุ่งสู่อนาคต รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากนายลูฮูต บินซาร์ ปันด์ไจตัน รัฐมนตรีประสานงานด้านกิจการการเดินเรือและการลงทุนของอินโดนีเซียอีกด้วย
นายลูฮูต เรียกร้องให้เปอร์ตามีนาเข้าซื้อกิจการบริษัทน้ำตาลและเอทานอลของบราซิล เพื่อยกระดับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศโดยการผสมเอทานอลชีวภาพ
“เปอร์ตามีนาจำเป็นต้องขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อผลกำไรของบริษัทและการสำรวจโอกาสทางธุรกิจและเศรษฐกิจในอนาคต” ประธานาธิบดีโจโกวีกล่าวในงานฉลองครบรอบ 52 ปีของสมาคมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของอินโดนีเซีย (HIPMI) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567
ข้อเสนอให้เข้าซื้อกิจการโรงงานน้ำตาลและเอทานอลในบราซิลถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกโดยนายลูฮูต ในงานเดียวกันนี้เขาระบุว่าเปอร์ตามีนากำลังดำเนินการตรวจสอบธุรกิจอย่างละเอียดเกี่ยวกับบริษัทเป้าหมาย
แม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดเผยชื่อบริษัทในบราซิลที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อกิจการโดยเฉพาะ แต่การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเบนซินในประเทศให้ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยลดปริมาณกำมะถันลง
หากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะสามารถลดปริมาณกำมะถันในน้ำมันเชื้อเพลิงจากระดับปัจจุบันที่ 500 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) เหลือเพียง 50-60 ppm ภายในระยะเวลา 3 ปี
นายลูฮูตเสริมทิ้งท้าย “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้เปอร์ตามีนามีแหล่งพลังงานและน้ำตาลจากบราซิลที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของอินโดนีเซีย”