KTIS ร่วมมือกับเกษตรฯ – ส.อ.ท. เพื่อพัฒนาโมเดลต้นแบบ เพิ่มผลผลิตและคุณภาพอ้อย
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร ได้มีแผนขับเคลื่อน “โครงการนำร่องพัฒนาเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจอุตสาหกรรม 2 ล้านไร่” ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้กล่าวไว้ โดยมีอ้อยโรงงานเป็นหนึ่งในพืชเกษตรเป็นเป้าหมาย ในฐานะที่กลุ่ม KTIS เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่อันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในไทย ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมเป็นโครงการนำร่องด้วย และทั้งนี้ได้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่และได้อ้อยที่มีคุณภาพ เช่น โดรน นำมาใช้ในการถ่ายภาพ ฉีดพ่น หว่าน
กลุ่ม KTIS ได้มีการจัดอบรมแก่ชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งสนับสนุนในด้านเครื่องจักรกลกรเกษตร และปัจจัยการผลิตที่สำคัญโดยมีอ้อยโรงงานเป็นหนึ่งในพืชเกษตรเป้าหมายที่สำคัญ ทั้งนี้พื้นที่ที่เป็นเป้าหมายการเกษตรแปลงใหญ่อ้อยที่เข้าร่วมโดยมีพื้นที่รวมทั้งหมด 46,868 ไร่ ซึ่งประกอบไปด้วย 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และลพบุรี ในส่วนจำนวนของเกษตรกรมีทั้งหมด 1,493 ราย โดยที่แยกเป็นเกษตรแปลงใหญ่อ้อยอยู่แล้ว 27 แปลง มีพื้นที่ 31,957 ไร่ โดยมีจำนวนเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ 1,420 ราย และเป็นพื้นที่ของเกษตรกรเครือข่าย 14,911 ไร่ และมีเกษตรแปลงใหญ่ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อีกจำนวนเกษตรกร 73 ราย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม KTIS ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเกษตรแม่นยำฯ นี้ว่า “โครงการพัฒนาเกษตรแม่นยำนี้จะส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ เรื่องเทคโนโลยี และเรื่องนวัตกรรมการผลิต โดยที่เริ่มจากการให้การอบรม และให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ ที่จะช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลงและผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น รวมไปทั้งคุณภาพอ้อยที่วัดจากค่าความหวานก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย โดยที่มีเป้าหมายที่จะสร้างผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยมากกว่า 10 ตันต่อไร่ ซึ่งจะได้คุณภาพความหวาน 12 ซีซีเอส ขึ้นไป และการตัดอ้อยสดคุณภาพที่ดี ไม่มีสิ่งสกปรกปนเปื้อนก่อนส่งเข้าโรงงาน ซึ่งโรงงานน้ำตาลกลุ่ม KTIS มีเป้าหมายจะรับซื้ออ้อยเพิ่มขึ้นจากโครงการนี้จำนวน 730,000 ตัน หรือ 730 ล้านกิโลกรัม” และเนื่องจากจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น โดรน ที่มีการนำเข้ามาใช้ในการเกษตร ดังนั้นการจัดการทำหลักสูตรการบินโดรนเพื่ออบรมให้กับเกษตรกร โดยที่จะมีแปลงสาธิตสำหรับการฝึกอบรมในครั้งนี้ด้วย
นอกจากจะมีการพัฒนศักยาภาพของพื้นที่ที่ปลูกอ้อยโดยวิธีการตรวจสอบวิเคราะห์และการปรับปรุงความสมบูรณ์ของสภาพดิน รวมไปถึงการวิจัยพัฒนาหาปุ๋ยที่เหมาะสมกับสภาพดิน และการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน ที่ได้วางเป้าหมายในการขุดบ่อจำนวน 3,216 บ่อ ถ้าหากมีน้ำไหลผ่านอาจจะสร้างฝาย ห้วย หรือทำสระน้ำ รวมไปถึงแม้กระทั่งการลอกคูคลอง และการใช้พลังงานโซล่าห์เซลในการสูบน้ำมาใช้ในโครงการนำร่องพัฒนาเกษตรแม่นยำฯ ทำให้ได้โดเมลต้นแบบตั้งแต่การพัฒนาดิน การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชไปจนกระทั่งการเก็บเกี่ยว ซึ่งต้องแบ่งชั้นคุณภาพปละการประเมินผลผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตอ้อยต่อไร่เพิ่มขึ้นและคุณภาพอ้อยที่สูงขึ้น