บราซิลและไทยลงนามยุติข้อพิพาทการอุดหนุนน้ำตาลของ WTO
ในที่สุดประเทศไทยและบราซิลก็ได้แก้ไขข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมานาน 8 ปีขององค์การการค้าโลกเกี่ยวกับรัฐบาลไทยที่ถูกกล่าวหาว่าขัดต่อกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลกด้วยการให้เงินอุดหนุนแก่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย
นางพิมพ์ชนก พิตต์ฟิลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก กล่าวว่าได้ข้อยุติข้อพิพาทอย่างเป็นทางการหลังลงนามข้อตกลงเมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
พิมพ์ชนกกล่าวว่าตนและเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรบราซิลประจำองค์การการค้าโลก นายกีเยร์ เม เด อากีอาร์ ปาตริโอตา ได้รับอำนาจอย่างเต็มที่จากรัฐบาลของตนในการลงนามข้อตกลงในระหว่างการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 13 การประชุมนี้ได้จัดขึ้นโดยประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 26 ถึง 29 กุมภาพันธ์
สำหรับข้อพิพาทดังกล่าวเกิดขึ้นจากบราซิลยื่นข้อร้องเรียนต่อไทยต่อองค์การการค้าโลก ในปี 2559 โดยกล่าวหาว่ากระบวนการปลูกอ้อยและการผลิตน้ำตาลทรายของไทยละเมิดเงินอุดหนุนที่ได้รับจากองค์การการค้าโลก หลังจากบราซิลยื่นเรื่องร้องเรียนแล้ว ทั้งสองประเทศได้ปรึกษาหารือกันเพื่อพยายามแก้ไขปัญหา ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ดำเนินการเพื่อแสดงความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขปัญหาที่บราซิลเป็นกังวล นอกจากนี้ ยังได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายและการเพาะปลูกอ้อยตามกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก เรื่องการอุดหนุนผลิตผลทางการเกษตร โดยบราซิลได้ติดตามความพยายามของไทยในการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายภายในประเทศอย่างใกล้ชิดให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ WTO ในเรื่องการอุดหนุน ซึ่งใช้เวลาหลายปีกว่าจะแล้วเสร็จ
ต่อมาทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในปี 2564 เพื่อจัดตั้งกลไกในการปรึกษาหารือติดตามความคืบหน้าการปรับโครงสร้างระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย ในช่วงเวลานี้ บราซิลเลือกที่จะไม่ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อประเทศไทยเพิ่มเติม ซึ่งต่อมาไทยได้ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายแล้วเสร็จ พร้อมทั้งบังคับใช้ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2565 เป็นต้นมา
สำหรับไทยและบราซิลได้เจรจาและหารือร่วมกันเพื่อแก้ไขข้อพิพาทเรื่องนี้อย่างฉันมิตรตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเพื่อยุติข้อพิพาท จนในที่สุดก็นำมาซึ่งการลงนามระหว่างสองฝ่ายในข้อตกลงเพื่อยุติคดีน้ำตาลใน WTO เป็นการถาวรได้ในครั้งนี้ นางพิมพ์ชนกกล่าว
ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่เป็นอันดับที่ 3 รองจากบราซิลและอินเดีย ปีที่แล้วไทยส่งออกน้ำตาล 6.54 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (126.58 พันล้านบาท) ตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ กัมพูชา และมาเลเซีย